คลังเผย แก้ปัญหาหนี้นอกระบบคืบหน้า
กระทรวงการคลังนายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า จากมาตรการการดำเนินการอย่างจริงจังกับเจ้าหนี้นอกระบบที่กระทำผิดกฎหมาย ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สนช.) ยังคงกวดขันจับกุมผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบและผู้ติดตามทวงถามหนี้โดยวิธีการผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง
โดยผลการดำเนินการสะสมการจับกุมผู้กระทำผิดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 เป็นต้นมา ถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2561 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 4,628 คน
ทั้งนี้ทางกระทรวงการคลังยังคงยึดแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของรัฐบาลเพื่อให้การแก้ปัญหามีความยั่งยืนใน 5 มิติ ได้แก่
1 ดำเนินการจริงจังกับเจ้าหนี้นอกระบบที่ผิดกฎหมาย
2 เพิ่มช่องทางการเข้าถึงสินเชื่อในระบบ
3 ลดภาระหนี้นอกระบบโดยการไกล่เกลี่ย
4 เพิ่มศักยภาพลูกหนี้นอกระบบ
5 การสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ
นอกจากนี้แล้ว ทางกระทรวงการคลังยังได้รับความร่วมมือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในการร่วมกันผลักดันเจ้าหนี้นอกระบบรายใหญ่ที่มีลูกหนี้จำนวนมาก ให้เข้าสู่การไกล่เกลี่ยประนอมหนี้ของคณะอนุกรรมการไกล่เกลี่ยประนอมหนี้นอกระบบประจำจังหวัด ซึ่งมีอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดเป็นประธาน
และยังได้มีการร่วมประชาสัมพันธ์เชิญชวนเจ้าหนี้นอกระบบให้หันมาดำเนินธุรกิจสินเชื่อในระบบให้เป็นไปตามกฎหมายด้วยการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโคไฟแนนซ์ให้มากขึ้น ซึ่งจะกลายเป็นแหล่งเงินกู้ทางเลือกที่สำคัญให้กับประชาชนในท้องถิ่น
ทั้งนี้นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2559 ที่กระทรวงการคลังเปิดให้ผู้สนใจยื่นคำขออนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโคไฟแนนซ์เป็นต้นมา จนถึง ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2561 มีจำนวนนิติบุคคลยื่นคำขออนุญาตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีจำนวนคำขออนุญาตทั้งสิ้น 875 ราย จาก 73 จังหวัด
สำหรับจังหวัดที่มีผู้ยื่นคำขออนุญาตมากที่สุด 3 ลำดับแรก ได้แก่
นครราชสีมา 74 ราย
กรุงเทพมหานคร 63 ราย
ขอนแก่น 50 ราย
โดยมีจำนวนนิติบุคคลที่คืนคำขออนุญาตทั้งสิ้น 102 ราย ใน 47 จังหวัด จึงคงเหลือนิติบุคคลที่ยื่นคำขออนุญาตสุทธิเป็นจำนวน 773 ราย ใน 73 จังหวัด และมีจำนวนผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจแล้ว 429 รายใน 65 จังหวัด ซึ่งในจำนวนนี้ ได้เปิดดำเนินการแล้วเป็นจำนวน 356 ราย ใน 64 จังหวัด และมีจำนวนผู้ประกอบการที่ปล่อยสินเชื่อแล้ว 349 ราย ใน 63 จังหวัด
สำหรับสถิติสินเชื่อพิโคไฟแนนซ์ ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2561 มียอดสินเชื่ออนุมัติสะสมจำนวน 50,740 บัญชี รวมเป็นจำนวนเงิน 1,416.32 ล้านบาท หรือคิดเป็นวงเงินสินเชื่ออนุมัติเฉลี่ยจำนวน 27,913.34 บาทต่อบัญชีประกอบด้วย
- สินเชื่อแบบมีหลักประกันจำนวน 28,067 บัญชี เป็นจำนวนเงิน 860.74 ล้านบาท หรือคิดเป็น 60.77% ของจำนวนยอดสินเชื่ออนุมัติสะสม
- สินเชื่อแบบไม่มีหลักประกันจำนวน 22,673 บัญชี เป็นจำนวนเงิน 555.58 ล้านบาท หรือคิดเป็น 39.23% ของจำนวนยอดสินเชื่ออนุมัติสะสม
ขณะที่ยอดสินเชื่อคงค้าง มีจำนวนทั้งสิ้น 19,223 บัญชี คิดเป็นจำนวนเงิน 563.17 ล้านบาท
สำหรับสินเชื่อคงค้างชำระไม่เกิน 3 เดือน มีจำนวน 1,799 บัญชี หรือคิดเป็นจำนวนเงิน 55.93 ล้านบาท หรือคิดเป็น 9.93% ของยอดสินเชื่อคงค้างรวม
สินเชื่อคงค้างชำระที่เกินกว่า 3 เดือน (NPL) จำนวน 613 บัญชี คิดเป็นจำนวนเงิน 20.05 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3.56% ของยอดสินเชื่อคงค้างรวม
Leave a comment
You must be logged in to post a comment.