Tweet

จะหลุดพ้นวังวนของหนี้นอกระบบได้อย่างไร

หนี้นอกระบบจะสามารถดึงคุณเข้าสู่วังวนการเป็นหนี้ได้เนื่องจากต้นทุนดอกเบี้ยที่สูง มันจะทำให้คุณไม่หลุดพ้นจากกับดักทางการเงินซักทีเนื่องจากคุณจะหวังพึ่งพารูปแบบการกู้ยืมแบบนี้อยู่ตลอดเวลาด้วยการ ยืมหนี้ใหม่มาคืนหนี้เก่าเพื่อยืดระยะเวลาการชำระหนี้ออกไป

แน่นอนว่าในการกู้เงินรอบใหม่แต่ละครั้งก็จะมีดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น แต่ดูเหมือนว่าคุณไม่ต้องดิ้นรนหน้าเงินมาใช้หนี้ให้เหนื่อยเลยจะทำให้ติดนิสัยจนกลายเป็นหนี้ที่ทับถม จำนวนดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละเดือนคุณจะยิ่งใช้เงินจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆเพื่อรักษาสภาพความเป็นหนี้เอาไว้จนแทบจะหมดหนทางหลุดจากความเป็นหนี้ออกมาได้

มีหลากหลายวิธีที่จะแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ หนี้รายวัน เงินด่วนรายวัน เราจะแนะนำวิธีการต่างๆในการแก้ปัญหาหนี้ทับถมเหล่านี้และการป้องกันไม่ให้วังวนการเป็นหนี้กลับเข้ามาอีก เช่น

1. จ่ายคืนหนี้เก่าด้วยหนี้ใหม่ที่ดอกเบี้ยถูกกว่า
2. จ่ายคืนหนี้ด้วยเงินเก็บที่มีอยู่
3. ตกลงหาวิธีการผ่อนหนี้ระยะยาวด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำกับเจ้าหนี้รายปัจจุบัน
4. เพิ่มรายได้ชั่วคราวเพื่อลดปัญหาหนี้

หาเงินกู้ก้อนใหม่

ถ้าตอนนี้คุณไม่สามารถชำระหนี้เก่าคืนได้ทั้งหมด การมองหาเงินก้อนใหม่อาจจะเป็นหนทางที่ดีกว่าการกู้จากรายเดิมเพื่อมาชำระหนี้เก่า

– มองหาผู้ให้กู้รายใหม่ พยายามหาเงินกู้ในรูปแบบอื่นๆ อย่างเงินกู้ในระบบแทบทุกชนิดจะมีต้นทุนทางการเงินน้อยกว่าหนี้นอกระบบแน่นอน สถาบันการเงินส่วนใหญ่จะมีการเสนอเงินกู้เป็นก้อน ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อไปชำระหนี้นอกระบบแล้วมาผ่อนจ่ายหนี้นอกระบบในระยะยาวแทน

หากในที่ทำงานของคุณมีระบบสหกรณ์ คุณอาจจะต้องตัดสินใจกู้เงินสหกรณ์เพื่อไปชำระหนี้นอกระบบทั้งหมดแล้วมาผ่อนจ่ายรายเดือนด้วยจำนวนเงินที่น้อยลงในระยะยาวแทน

– หาคนค้ำประกัน เพื่อกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินมาจ่ายคืนหนี้นอกระบบ แล้วผ่อนระยะยาวกับสถาบันการเงินแทน

การมองหาเจ้าหนี้รายใหม่ของเงินกู้ในระบบอาจจะเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับคนที่มีหนี้นอกระบบมากๆ นั่นเพราะการเป็นหนี้นอกระบบอาจจะหมายถึงการที่เป็นคนมีปัญหาทางด้านเครดิตทางการเงิน หรือติดบูโร ทำให้การจะกู้เงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำนั้นทำได้ยาก

การมองหาบุคคลค้ำประกันจึงถึอเป็นทางออกอีกทางหนึ่ง แต่คนทั่วๆไปใครเขาจะมารับภาระนี้ได้ เพราะหากคุณไม่ชำระหนี้หรือผิดนัดชำระหนี้ เขาก็จะเสียเครดิตไปด้วยหรือดีไม่ดีจะถูกฟ้องบังคับชำระหนี้ไปด้วย

บุคคลที่จะค้ำประกันคุณได้ก็เลยมักจะเป็นพ่อแม่พี่น้องหรือญาติสนิทซึ่งคุณต้องเข้าไปคุยขอร้องเพราะต้องการหลุดจากวังวนการเป็นหนี้ ดังนั้นหากได้รับโอกาสนี้คุณควรจะพยายามสร้างเครดิตทางการเงินของคุณคืนกลับมาด้วยการชำระหนี้ให้ตรงเวลา จะได้หลุดพ้นจากหนี้นอกระบบเสียที

มีเงินสดในบ้าน

หากคุณบังเอิญมีเงินสดเข้ามา แทนที่จะนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเสียหมด อาจจะกันเงินไว้ส่วนหนึ่งมาชำระหนี้เงินต้น แต่ก่อนจะชำระ คุณอาจจะต้องติดต่อเจ้าหนี้เพื่อแสดงเจตจำนงค์ว่าคุณต้องการชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยเท่าไหร่

นั่นเพราะเจ้าหนี้เงินกู้หลายราย แม้คุณจะชำระเงินก้อนเข้าไป เขาก็จะมีวิธีการคิดดอกเบี้ยที่เอาเปรียบคุณจนสุดท้ายคุณยังเป็นหนี้อยู่เท่าเดิม ดังนั้นคุณควรสอบถามว่าตอนนี้คุณเป็นหนี้เงินต้นเท่าไหร่ มีดอกเบี้ยเท่าไหร่ ถ้าคุณจ่ายเงินก้อนนี้เข้าไปแล้ว จะทำให้เงินต้นของคุณลดลงไปเท่าใด อาจจะต้องขอดูบัญชีเงินกู้ของคุณที่มีอยู่กับเจ้าหนี้ว่าที่ผ่านมาการชำระเงินของคุณเป็นอย่างไร มีดอกเบี้ย ค่าปรับคงค้างอยู่หรือไม่

ถ้าคุณมีเงินสดจำนวนมากพอ คุณอาจจะต่อรองขอปิดหนี้ ด้วยการขอส่วนลดเนื่องจากที่ผ่านมาคุณได้ชำระทั้งต้นทั้งดอกไปมากแล้วนั่นเอง อย่าลืมถ้าตกลงกันได้ ให้ขอเอกสารลงลายมือชื่อว่าปลอดหนี้กันแล้วด้วย

สร้างกระแสเงินสด

บางครั้งหนทางเดียวที่จะแก้ปัญหาหนี้นอกระบบได้ก็คือการสร้างกระแสเงินสดเพิ่มขึ้นมาในกระเป๋าคุณ ซึ่งคุณสามารถทำได้ 2 วิธี คือการหารายได้เพิ่ม หรือ ลดค่าใช้จ่ายลง

หารายได้เพิ่ม
ถ้าเป็นไปได้ก็ให้หางานเพิ่ม คุณไม่จำเป็นต้องหางานประจำทำเพิ่มเติม เพียงแค่พยายามหารายได้พิเศษเพื่อจะได้เงินเพิ่มขึ้นมาแล้วจ่ายหนี้นอกระบบให้หมดไปเท่านั้น

การทำงานด้วยชั่วโมงที่ยาวขึ้นอาจจะเป็นตัวเลือกสุดท้ายหากคุณทำงานหนักอยู่แล้ว แต่ลองพยายามมองรายได้เพิ่มในทิศทางที่ตรงกันข้าม การพยายามลดการจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ลงก็ถือเป็นการเพิ่มรายได้อีกวิธีนึงเหมือนกัน

ขายทรัพย์สินเหลือใช้
คุณสามารถสร้างกระแสเงินสดเพิ่มเติมได้ด้วยการขายทรัพย์สินเหลือใช้ที่วางอยู่ในบ้าน อาจจะมีการบอกขายเพื่อนฝูง หรือประกาศขายทางเน็ตเป็นสินค้ามือสอง พยายามนึกถึงของมีค่าที่เก็บไว้ในบ้านที่แทบจะไม่ได้นำออกมาใช้ เช่นมือถือเครื่องเก่า โน้ตบุ้คเครื่องเก่า กล้องถ่ายรูป อาจจะใช้วิธีขายของใหม่ แล้วหาซื้อของมือสองมาใช้ทดแทนก็ได้เช่นกัน

ลดค่าใช้จ่าย

หากการเพิ่มกระแสเงินสดด้วยการหางานพิเศษ หรือขายของเหลือใช้ในบ้านนั้นทำได้ยากสำหรับสถานการณ์ของคุณ คุณก็จำเป็นต้องลดค่าใช้จ่ายลง โดยทุกครั้งที่ต้องจ่ายเงินออกไป ให้คิดเสมอว่าจำเป็นต้องจ่ายหรือไม่ หรือจะซื้อของที่ราคาถูกลงได้หรือไม่

คุณอาจจำเป็นต้องลดค่าใช้จ่ายอย่างหนักด้วยการ ทำอาหารทานเองทุกมื้อ พกข้าวห่อไปที่ทำงาน เลิกใช้บริการรายเดือนต่างๆที่ไม่จำเป็น หันมาใช้มือถือแบบเติมเงิน ปั่นจักรยานแทนการใช้รถยนต์เป็นต้น

ตั้งเป้าสู่อนาคต

หากคุณมีโอกาสที่ปลดหนี้นอกระบบได้ซักครั้งหนึ่ง คุณต้องตั้งมั่นที่จะไม่กลับไปหาวังวนการเป็นหนี้แบบนั้นอีก ซึ่งคุณจะพบว่าสาเหตุของการเป็นหนี้นอกระบบนั้นเนื่องจากคุณไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้า แล้วมีเหตุจำเป็นต้องใช้เงินขึ้นมา

เก็บเงินบางส่วนไว้ใช้จ่ายยามจำเป็น พยายามสะสมเงินบางส่วนไว้ในกรณีฉุกเฉิน เริ่มจากในแต่ละเดือนพยายามฝากเงินสักพันสองพันในบัญชีที่ถอนได้ยากแล้วให้ลืมไปเลยว่ามียอดเงินเท่าใด ผ่านไปไม่นานคุณก็จะมีเงินก้อนขึ้นมา

ตามหลักแล้วเราควรจะมีเงินสดฉุกเฉินให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายรายเดือนประมาณ 3 ถึง 6 เดือน นั่นหมายถึงว่า ถ้าแต่ละเดือนคุณต้องใช้จ่ายเงินประมาณ 20,000 บาท คุณจะต้องมีเงินเก็บฉุกเฉินประมาณ 60,000 ถึง 120,000 บาท ซึ่งจะช่วยคุณได้ในยามฉุกเฉิน และจะได้ไม่ต้องไปกู้ยืมเงินนอกระบบอีก

เริ่มเก็บเงินเสียตั้งแต่วันนี้แล้วค่อยๆสะสมไปเรื่อยๆ

กลับมาสร้างเครดิตให้ตัวเอง
การที่จะกู้ยืมเงินในระบบที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำได้อีกในอนาคตนั้น คุณจะต้องมีประวัติทางการเงินที่ดี แม้จะเคยพลาดไปแล้วคุณก็จะยังสร้างเครดิตกลับมาใหม่ได้ ด้วยการกู้เงินในระบบด้วยประมาณน้อยๆ เช่นการถือบัตรเครดิต แล้วชำระหนี้คืนให้ตรงเวลา

เมื่อเวลาผ่านไป ประวัติทางการเงินของคุณก็จะกลับเข้าสู่ระบบ ที่จะสร้างความมั่นใจให้กับผู้ให้กู้ได้ในอนาคต และคุณจะสามารถยื่นกู้เงินซื้อบ้านซื้อรถได้อีกครั้งในอนาคตเมื่อสถานการณ์ทางการเงินของคุณดีขึ้น