Tweet

เราอาจจะคุ้นเคยกันดีกับวันสำคัญเพื่อการรณรงค์ต่างๆเช่น Carfree Day, Earth Day หรือวันอื่นๆที่มีการรณรงค์เพื่อสร้างความตระหนักหรือเพื่อส่งเสริมให้คนได้เริ่มต้นทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพื่อประโยชน์ของตนเองหรือส่วนรวม

ทำนองเดียวกันกับคนที่เป็นหนี้หรือต้องการมีเงินเก็บ ที่กำลังมองหาวิธีการในการประหยัดเงินเพื่อลดค่าใช้จ่ายประจำเดือน การทดลองทำ No Spend Month หรือเดือนนี้ไม่จ่ายฟุ่มเฟือย ถือเป็นวิธีการหนึ่งที่น่าสนใจทีเดียว

จะว่าไปแล้วคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศหรือทั้งโลก ต่างก็กำลังแบกหนี้กันอยู่ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นบัตรกดเงินสด บัตรเดรดิต สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย เงินกู้เพื่อการศึกษา หรือรวมไปถึงเงินกู้นอกระบบก็มี

ที่เราต้องเป็นหนี้ก็เพราะเรามีความจำเป็นต้องใช้จ่าย จริงๆแล้วการเป็นหนี้ไม่ใช่เรื่องเสียหาย หนี้บางอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา ถ้าจะรอเก็บเงินให้ครบแล้วค่อยไปเรียนบางครั้งก็เลยวัยเรียนเสียแล้ว หรือเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย ถ้ารอให้เก็บเงินเป็นล้านๆแล้วค่อยซื้อบ้าน ก็คงเลยวัยเกษียณไปแล้ว

แต่ปัญหาของการเป็นหนี้ก็คือการจับจ่ายซื้อสิ่งของที่ไม่จำเป็น ซึ่งจะนำไปสู่การที่จะไม่สามารถเก็บเงินหรือบางครั้งนำเงินเก็บมาซื้อ หรือหลายคนยอมเป็นหนี้เพื่อให้ได้สิ่งนั้นมา สิ่งเหล่านี้จะส่งผลต่อชีวิตคุณไปอีกหลายปี หรือเป็นสิบๆปี หรือสำหรับบางคนทั้งชีวิตก็ไม่เคยหลุดพ้นความเป็นหนี้ไปได้

นี่คือที่มาว่าทำไม No Spend Month หรือ เดือนนี้ไม่ใช้จ่าย จะสามารถเข้ามาช่วยคุณได้

คำว่า No Spend Month นั้นหมายถึงการที่คุณจะไม่จับจ่ายซื้อสินค้าในบางหมวดหมู่หรือในหลายๆหมวดหมู่ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง วิธีการนี้นับเป็นหนทางในการลดค่าใช้จ่ายในบางด้านซึ่งอาจส่งผลให้ประโยชน์ในหลายๆแง่มุม อย่างการออมเงินเป็นต้น

No spend month ไม่ได้หมายถึงว่าคุณจะไม่ใช้จ่ายอะไรเลย เพราะแน่นอนว่าคุณมีค่าน้ำค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าผ่อนบ้าน ค่าอาหาร หรืออื่นๆที่ต้องจ่ายอยู่แล้ว

แต่เดือนที่ไม่จ่ายฟุ่มเฟือยนี้คือการที่คุณจะไม่จ่ายเงินสักบาทนอกเหนือรายจ่ายที่จำเป็น นั่นหมายถึงว่า คุณจะไม่จ่ายเงินสักบาทเพื่อซื้อเสื้อผ้า หรือการไม่ออกไปทานอาหารนอกบ้าน หรือการจะไม่เข้าไปยังห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อสิ้นค้าโดยไม่มีจุดมุ่งหมายชัดเจนว่าจะซื้ออะไร

คราวนี้เรามาดูกันว่า No Spend Month จะช่วยอะไรเราได้บ้าง

No Spend Month จะช่วยให้เราเปลี่ยนแปลงนิสัยที่ไม่ดีได้

จุดเด่นด้านบวกอย่างหนึ่งของ No Spend Month ก็คือ มันจะช่วยให้คุณเปลี่ยนนิสัยการชอปปิ้งอันปกติของคุณ โดยมันจะช่วยให้คุณได้เห็นในด้านที่คุณใช้จ่ายเกินตัว เพราะคุณจำเป็นจะต้องคิดและรอให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อนที่จะได้ซื้อจริงๆ

ถ้าคุณเริ่มพยายามที่จะจำให้ได้ถึงสิ่งต่างๆที่คุณจำเป็นต้องงดการซื้อ คุณก็จะเริ่มเห็นว่าอะไรบ้างที่มันทำให้เกิดการใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น อาจจะเป็นเสื้อผ้า การออกไปทานอาหารเที่ยง หรือกาแฟแก้วโปรดเป็นต้น

หรือคุณอาจจะรับรู้ถึงปัญหาการใช้จ่ายอยู่แล้ว คุณก็แค่ตั้งเป้าว่าเดือนนี้จะไม่ซื้อสินค้าในกลุ่มนั้นก็ย่อมทำได้

สิ่งนี้จะช่วยให้คุณเปลี่ยนนิสัยการใช้จ่ายในอนาคต และมันก็ดีขึ้นเรื่อยๆจนคุณสามารถควบคุมความอยากซื้อได้

No Spend จะช่วยลดการซื้อสินค้าเพราะอยากซื้อได้

โดยปกติแล้วคนเราก่อนออกไปช้อปปิ้งมักจะตั้งเป้าหมายว่าจะซื้ออะไรบ้าง แต่พอไปถึงเข้าจริงๆ กลับซื้อของกลับมาเกินกว่าที่ได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ บางทีตอนก่อนไปห้างแค่คิดว่าจะซื้อของสิ่งเดียวเท่านั้นแต่กลับได้ของมากกว่าสิบอย่างซื่งหลายๆคนอาจจะเห็นว่าเป็นเรื่องปกติ

การตั้งใจที่จะทำ No Spend Month นั้นมันจะช่วยป้องกันไม่ให้คุณซื้อของที่ไม่จำเป็นได้

คิดว่านี่คงเป็นเหตผลหลักที่ว่าทำไม No Spend Month จึงใช้ได้ผลดี เพราะว่าถ้าคุณไม่คิดจะไปห้างตั้งแต่ต้นมันจะช่วยลดความอยากซื้อไปได้ทันที และคุณจะต้องคิดให้มากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งของที่คุณต้องการจะซื้อ ซึ่งมันจะทำให้คุณเข้าใจและตัดสินใจได้ว่าควรจะซื้อสินค้าชิ้นนั้นหรือไม่

คุณสามารถใช้ของที่มีอยู่แล้วในท้ายที่สุด

ถ้าคุณเป็นผม คุณอาจจะพบว่าคุณมีอาหารอยู่ในตู้เย็นเป็นจำนวนมากที่คุณไม่คิดจะนำมันออกมาทาน และคุณอาจจะมีเสื้อผ้าอยู่เป็นจำนวนมากในตู้ที่คุณอาจจะไม่ได้สวมใส่อีกต่อไป สิ่งเหล่านี้สามารถปรับใช้ได้กับสิ่งอื่นๆในชีวิตคุณ

การเข้าไปมีส่วนร่วมในโครงการ No Spend Month นั้น คุณอาจจะลองดัดแปลงใช้งานสิ่งที่มีอยู่แล้วได้แทนที่จะปล่อยให้มันเก่าแล้วทำให้เราลืมมันไปตลอดกาล และมันจะทำให้คุณรู้ว่าอะไรที่คุณไม่ควรจะซื้ออีกต่อไปเพราะมันทำให้คุณสิ้นเปลืองเงินโดยใช่เหตุ

No Spend Month จะช่วยกระตุ้นคุณ

การตั้งเป้าหมายอะไรไว้ในใจจะช่วยกระตุ้นให้คุณตื่นตัว วิธีการหนึ่งที่ง่ายที่สุดก็คือ คุณอาจจะคิดว่า No Spend Challenge เป็นเกมส์อย่างหนึ่ง โดยคุณอาจจะให้รางวัลกับตัวคุณเองเมื่อจบเกมส์ลง แค่อย่าลืมว่าอย่าให้รางวัลมากเกินจนความพยายามในการประหยัดของคุณนั้นเปล่าประโยชน์

ถ้าคุณได้พยายามลดการทานอาหารนอกบ้านลง ก็ลองจินตนาการถึงการออกไปหาอะไรทานหลังจากที่ได้ผ่านการทำอาหารเย็นทานเองที่บ้านมา 1 เดือนเป็นต้น

หรือสำหรับบางคน จำนวนเงินที่ประหยัดได้จากการทำ No Spend Month นั้นก็คือรางวัลในตัวเองแล้ว การนำยอดเงินที่สะสมได้ไปเปิดบัญชีไว้ต่างหาก จะทำให้เรารู้สึกสนุกและคิดว่าครั้งต่อไปที่เราทำ No Spend Month นั้นจะทำให้เราเหลือเงินมากครั้งนี้หรือไม่

จะเริ่ม No Spend Month อย่างไรดี

การทดลองทำ No Spend Month นั้นไม่ใช่เรื่องยาก ต่อไปนี้คือแนวทางอย่างง่ายเพื่อที่คุณจะได้เตรียมตัว

1. คิดว่าคุณจะลดหรือเลิกใช้จ่ายเงินในสินค้ากลุ่มไหน
โดยหมวดหมู่ที่คนส่วนใหญ่พยายามลดหรือเลิกใช้จ่ายได้แก่ ภัตตาคาร เสื้อผ้า เครื่องสำอางค์​ และการดูหนังฟังเพลง

2. ตระหนักว่าคุณจะทำ No Spend Challenge ทำไม
ในการที่จะทำให้เกิดการตื่นตัวอยู่เสมอ คุณต้องคิดว่าจะทำไปเพื่ออะไร เช่นคุณอาจจะคิดว่าทำไปเพื่อประหยัดเงิน หรือคุณมีปัญหาใช้จ่ายเกินตัว หรืออยากเก็บเงินเพื่อไปเที่ยวต่างประเทศเป็นต้น

3. ตั้งเป้าเรื่องเวลา
คุณจะทำเพียง 1 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน หรือจะทำตลอดปี ควรตั้งเป้าเวลาให้ชัดเจนเพื่อคุณจะได้ติดตามความก้าวหน้าได้อย่างใกล้ชิด

4. ตั้งกฏเกณฑ์ให้ตัวเอง
ข้อสุดท้ายคือคุณอาจจะต้องตั้งกฏขึ้นมาสำหรับคุณ หรือคนอื่นๆในครอบครัว หรือแม้กระทั่งเพื่อน เพื่อให้การทำ No Spend Challenge ประสบความสำเร็จ คุณอาจจะตั้งกฏว่าสินค้าใดบ้างจำเป็นต้องซื้อเช่นผลไม้หรืออาหารสด
คุณก็ควรจะมีระบบติดตามตรวจสอบการใช้จ่าย อาจจะต้องมีการจดบันทึกรายละเอียดผ่านแอพ อีกทั้งคุณอาจจะตั้งกฏว่าจะใช้คูปองส่วนลดอะไรได้หรือไม่ เพราะในความเป็นจริงแล้วคูปองส่วนลดมักจะเป็นตัวกระตุ้นให้เราซื้อสิ่งของที่ไม่จำเป็นเสียมากกว่า

ว่าแล้วก็เริ่มคิดวางแผนกันเลยนะครับ ได้ผลอย่างไรอย่าลืมนำประสบการณ์มาแชร์ให้ได้รับทราบกันด้วยจะขอบคุณเป็นอย่างสูงครับ