สร้างตารางค่าใช้จ่าย
การออมเงินจะเกิดขึ้นได้อย่างไร
การเก็บเงินให้มากขึ้น | การจัดการหนี้ให้น้อยลง |
---|---|
|
สร้างตารางค่าใช้จ่าย
เริ่มทำรายการค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนว่าปกติแล้วเป็นอย่างไร เขียนให้หมดทุกรายการ โอเคคุณได้อ่านมามากพอแล้วว่าให้ทำรายการค่าใช้จ่าย แต่อะไรบ้างหละ คุณอาจจะเริ่มต้นจากการทำรายการรายรับ ว่ามีอะไรบ้าง รายจ่ายว่ามีอะไรบ้างดังตัวอย่างข้างล่าง
ายรับ | จำนวน | เดือนมิย | ||
เงินเดือน | 15,250 | รายจ่าย | จำนวน | |
โอที | 800 | เงินเก็บ | 1000 | |
ค่าครองชีพ | 400 | ผ่อนบ้าน | 4500 | |
รวม | 16,450 | ผ่อนรถ | 5600 | |
ค่าน้ำไฟ | 800 | |||
โทรศัพท์ | 500 | |||
อาหาร | 3000 | |||
เสื้อผ้า | 1000 | |||
เที่ยวดูหนัง | 500 | |||
ผ่อนทีวี | 1250 | |||
สหกรณ์ | 1500 | |||
รวม | 19650 |
สมมุติให้เงินเดือนที่รับคือสุทธิ หักภาษี ประกันสังคมหรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่นายจ้างหักไปแล้ว
เมื่อมองดูรายการให้ดีคุณจะเห็นว่ารายจ่ายมากกว่ารายรับ ถ้าเป็นบริษัทคือขาดทุน แต่ตัวคุณเองไม่มีทุนให้ขาด แต่ต้องหาเงินมาชดเชยรายจ่ายด้วยการไปกู้สหกรณ์หรือที่อื่นๆ มาโดยหวังว่าเมื่อผ่อนรถหรือทีวีหมด คุณก็มีเงินเหลือมาผ่อนสหกรณ์ต่อ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นหากระหว่างนี้รถคุณเสียไปทำงานลำบาก อาจจะต้องนั่งแทกซี่ทำให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ก็ต้องไปกู้ยืมมาซ่อมรถอีก แล้วเอาเงินที่ไหนมาผ่อน ก็ยังดีที่มีเงินเก็บไว้เดือนละ 1000 บาทเผื่อฉุกเฉินบ้าง คุณควรสะสมเงินเก็บฉุกเฉินไว้บ้างถึงจะเป็นหนี้อยู่ก็เถอะ
ทำรายการแล้วแต่ถ้าไม่เริ่มแก้ ปัญหาก็ไม่มีวันหมดไป การทำรายการเพียงแค่นี้ไม่เพียงพอ คุณจะต้องทำรายการให้แยกย่อยลงไปอีก ว่ารายการอะไรจำเป็นจริงๆ แล้วมาคิดต่ออีกทีว่าคุณต้องจ่ายค่าอะไรบ้างเพื่อให้ชีวิตยังอยู่ได้
รายจ่าย | จำนวน |
ผ่อนบ้าน | 4500 |
ผ่อนรถ | 5600 |
ผ่อนทีวี | 1250 |
ผ่อนสหกรณ์ | 1500 |
ไฟน้ำ | 800 |
อาหาร | 3000 |
รวม | 16650 |
คุณจะเห็นว่ารายจ่ายที่จำเป็นจริงๆ นั้นเกือบจะพอดีกับเงินเดือนของคุณ คุณอาจจะต้องทำโอทีเพิ่มหรือไม่ก็ลดค่าใช้จ่ายลง แต่รายการเงินผ่อนคุณคงขอลดไม่ได้ ไม่งั้นก็ต้องคืนเขาไป คุณก็ต้องไปมองดูว่าค่าน้ำค่าไฟลดได้หรือเปล่า เปิดไฟให้น้อยดวงลง ไฟหน้าบ้านก็เปิดให้ช้าลง ตื่นแต่เช้าก็รีบมาปิดไฟก่อน รีดผ้าทีละเยอะๆ โดยการรีดเสื้อ – กางเกง – เสื้อบาง (ไฟอ่อน แรงขึ้น ไฟอ่อน ปิด) แม้คุณปิดเตารีดไปแล้วจะยังสามารถรีดเสี้อเชิตบางๆได้อีก 2 -3 ตัว ตอนแปรงฟันก็รีบปิดน้ำให้เร็วขึ้น รื้อตู้เย็นเอาสิ่งไม่จำเป็นออกบ้างให้ตู้มันโปร่งๆ แล้วลดปุ่มปรับความเย็นลง หากยังลดไม่ได้ก็ต้องลดเรื่องอาหารแต่ไม่ถึงกับอด เช่นทำอาหารทานเองที่บ้าน ซื้อน้ำเปล่าแทนน้ำอัดลมเป็น
จะเห็นว่ายังไม่ได้พูดถึงรายจ่ายอื่นๆ ที่คุณมีแต่ยังไม่ลงรายการไว้ หากคุณลงให้หมดคุณก็จะรู้ว่ารายจ่ายของคุณหายไปไหนหมด แล้วละเลิกให้ได้เหมือนกับคุณต้องเลิกดูหนัง เลิกซื้อเสื้อผ้าใหม่ซักระยะ โทรศัพท์ก็ใช้ให้น้อยลง
แต่สิ่งที่พลาดไม่ได้คือการที่ต้องเก็บเงิน เผื่อเหตุการณ์ไม่คาดฝันคุณก็จะได้ไม่ต้องเป็นหนี้อีก พยายามเก็บเงินโดยถือว่าเป็นหนี้ตัวเองโดยการหักเงินเดือนไปฝากทันทีที่ได้รับ
การที่จะทำตัวให้หลุดจากหนี้ได้ต้องรู้จักใช้ชีวิดที่ต่ำกว่ารายได้ของคุณเอง ถ้าไม่เคยคุณก็จะไม่หลุดพ้นจากหนี้ไปได้
ลดค่าใช้จ่ายลง
การลดค่าใช้จ่ายไม่ได้หมายความว่าลดสิ่งที่คุณรักหรือชอบที่จะทำ แต่เป็นการหาช่องทางลดความไม่จำเป็นที่คุณอาจจะมองข้ามไปบ้าง พยายามทำให้เป็นนิสัย แล้วคุณจะพบว่าภายในไม่กี่ปีคุณจะปฏิบัติเป็นเรื่องปกติ และหลุดพ้นจากความเครียดที่เกิดจากหนี้ได้ สิ่งต่อไปนี้คือตัวอย่างในการพยายามลดค่าใช้จ่ายลง
- มองดูค่าใช้จ่ายที่จำเป็นเช่นค่าผ่อนบ้านผ่อนรถว่าเป็นอย่างไร แต่คงหาวิธีลดลำบาก ยกเว้นหากคุณต้องการลดรายจ่ายจริงๆ คุณอาจไปขอแบ้งค์ปรับลดเงินงวดให้น้อยลง (เพราะปกติธนาคารคิดเงินงวดที่อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าปกติอยู่แล้ว) แต่ถ้าเงินผ่อนบ้านมากกว่า 30 % ของรายได้ของคุณ (หรือครัวเรือน) แปลว่าคุณซื้อบ้านเกินฐานะ พยายามโปะเงินช่วงแรกๆ ให้มากๆ เข้าไว้จะได้หมดเร็วๆ
- ประหยัดค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าโทรศัพท์ จำเป็นด้วยหรือที่ต้องมีตั้ง 2 คู่สาย มือถือนี่ใครโทรเข้ามาหาคุณบ้าง จำเป็นกับชีวิตประจำวันแค่ไหน ก่อนเปิดแอร์ตอนกลับบ้านเลิกงาน ก็เปิดหน้าต่างทุกๆ บานเสียก่อน เพราะอากาศข้างในร้อนกว่าข้างนอกเยอะ พออาบน้ำเสร็จก็ค่อยมาปิดหน้าต่างแล้วก็เปิดแอร์ คุณก็จะประหยัดค่าไฟไปได้บ้าง
- ของกินของใช้ ขนมขบเคี้ยวนี่ก็ควรจะลดลงไปบ้าง แต่หันมาซื้อผลไม้แทน ถ้ากลัวอ้วนไม่อยากทานทุเรียนเพราะมีกลิ่น ก็พวกมะละก็ กล้วยมีให้ทานตลอดปี บางช่วงก็มะม่วงออกเยอะ น้ำดื่มก็น้ำเปล่านี่แหละ ทั้งตอนเวลาทานนอกบ้านหรือในบ้าน ยี่ห้อก็ไม่ต้องไปสนใจมากเอาพอประมาณ พยายามทานผักให้มากขึ้นดีกับตัวคุณเองด้วย อาหารสำเหร็จรูปนี่จำเป็นกับคุณหรือเปล่า คุณเตรียมอาหารเอง ทำทานเองสดๆ จะมีประโยชน์กว่า ลองใช้เวลาสักอาทิตย์ว่า ถ้าคุณทำเองค่าใช้จ่ายต่อวันเท่าไหร ถ้าทานข้าวแกงนี่ต่อวันเท่าไหร่ ในแต่ละวันนี่คุณหมดไปกับอะไรบ้าง
- เสื้อผา รองเท้า กระเป๋า คือตัวการสำคัญที่ทำให้คุณซื้อ ซื้อ ซื้อ เพราะคุณซื้อตามแรงปรารถนา ไม่ใช่เพราะความจำเป็น คราวหลังเวลาไปห้างเขียนรายการไว้เลยว่าจะซื้ออะไรบ้าง แล้วมุ่งไปตรงนั้นเลย ซื้อตามรายการ ห้างเค้าพยายามดึงเงินจากกระเป๋าคุณให้มากที่สุด เขาจะวางสินค้าที่ล่อตาล่อใจไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม เค้าเล่นเกมส์กับคุณ คุณก็เล่นเกมส์กับเขาบ้างดูว่าใครจะชนะ เงินจะอยู่ทีห้างหรือที่คุณ คุณจะทำให้เขารวย หรือคุณจะรวยเอง
- ดูหนังฟังเพลง วัยรุ่นโดยมากจะหมดเงินไปกับการดูหนัง ถามว่าถ้าไม่ดูคุณอยู่ได้หรือไม่ คิดถึงประโยชน์ที่คุณจะได้รับว่า คุ้มค่าเงิน 100 บาทที่จะต้องเสียหรือไม่ เช่นหนังดี ดีแบบไหน สอนอะไรคุณบ้าง เข้ากลุ่มเพื่อน ทำอะไรอย่างอื่นดีกว่าไหมที่ใช้เงินน้อยๆ หน่อย ถ้าต้องเข้าโรงหนังให้ได้ พวกป้อบคอร์นหรืออะไรนี่จำเป็นไหม ไหนจะต้องซื้อน้ำอีก ถ้าต้องรอดูหนังโดยการไปหาอะไรกินกันก่อน (หลังจากทานอาหารมาแล้ว) ก็ไม่ค่อยจะดี นั่งคุยกันเฉยๆดีกว่า บอกเพื่อนๆ ว่าเมื่อยแล้วไม่อยากไปไหน
- บัตรเครดิตนี่ตัวร้ายหากคุณจ่ายแบบผ่อน หาเงินมาจ่ายบัตรให้หมดก่อนดีกว่าเพราะคุณประหยัดดอกเบี้ยได้กว่า 20 เปอร์เซ็น นั่นคือเงินที่จะเหลือ
- รายการฟุ่มเฟือยอื่นๆที่สามารถลดได้โดยการหาสิ่งที่มาทดแทนได้ คุณไม่จำเป็นต้องอดจนผอมโซ ใส่กางเกงขาด แต่ใช้ชีวิตด้วย LifeStyle ที่พอเหมาะ อย่านำรายได้ในอนาคตมาใช้
ถ้าหากทุกอย่างรู้สึกว่าลดไม่ได้เลย จำเป็นไปหมดแสดงว่าคุณไม่อยากเปลี่ยนแปลง LifeStyle ถ้าคุณไม่อยากเปลี่ยนก็ไม่ต้องบ่น ขอเชิญฝันร้ายไปกับหนี้สินต่อไป จิตใจก็กังวลอยู่กับมันตลอดเวลา เวลาจำเป็นก็ต้องทนอับอายไปยืมเงินทุกครั้ง ลองคิดดูเล่นๆ ว่าถ้าเงินเดือนคุณถูกลด 10 เปอร์เซ็นต์คุณจะทำอย่างไร เครียดหรือไม่ ยังมีกะใจไปดูหนังอีกหรือเปล่า หรือว่ายังชอบซื้อของสะสมจาก Mc อยู่อีก ต้องคิดอยู่ในใจว่าคุณทำได้เสมอ ทำเพื่อปลดเปลื้องหนี้สินให้หมดไปเสียที
เปลี่ยน LifeStyle
การที่จะให้หลุดพ้นปัญหาทางการเงิน คุณต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินชีวิต อย่าตามคนอื่น หรือใช้ชีวิตแต่เกินกำลังความสามารถทางการเงินของคุณ
คุณเองเป็นคนสร้างวิถีการดำเนินชีวิต ต้องใส่เสื้อใหม่ทุกเดือน ต้องไปดูหนังใหม่ๆ ทุกเรื่อง ที่บ้านต้องมีจานดาวเทียม และต้องติดหน้าบ้านด้วยเพื่ออวดเพื่อนบ้าน มือถือต้องรุ่นใหม่ล่าสุด วันหยุดต้องไปทานอาหารในห้างหรือห้องอาหาร ชวนเพื่อนไปไปเที่ยวผับทุกคืนวันศุกร์
ถ้าคุณไม่เปลี่ยนแปลงหรือพยายามทำตัวตามกระแส คุณก็ไม่มีวันลืมตาอ้าปากได้ คุณพลาดไปแล้วตอนเรียนหนังสือว่าน่าจะตั้งใจเรียนให้ได้เกรดสูงๆ ได้งานดีๆ ก็อย่าให้มาพลาดกับการใช้ชีวิตที่ฟุ่มเฟือยอีก คุณควรมาสนใจว่าจะพัฒนาตัวเองให้ก้าวหน้าในหน้าที่การงานอย่างไร งานอดิเรกของคุณนั้นสร้างประโยชน์ให้คุณมากน้อยแค่ไหน ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงหรือไม่ เวลาว่างจะมานั่งฝึกภาษา ซื้อหนังสือมาอ่าน เรียนเพิ่มเติม หรือจะเรียนคอมพ์ (มาอ่านที่นี่ได้ ก็คงไม่ต้องมั้ง) จะทำให้คุณเหลือเวลาน้อยลงที่จะไปดูหนังฟังเพลงมากเงิน
คุณต้องถามตัวเองให้ได้ว่า การดำเนินชีวิตปกติทุกวันของคุณนั้นเป็นอย่างไร เปลี่ยนแปลงได้ไหม เพื่อแลกกับความมั่นคงในอนาคต แลกกับหนี้ที่หนักอกอยู่ทุกวัน คุณอาจจะไม่สามารถทำได้ปุ้บปั้บทันที อาจจะต้องใช้เวลา แต่ยังไงคุณก็ควรเริ่มวางแผนไว้ว่าเมื่อไหร่ เช่นเดือนหน้าจะดูหนังลดลง 1 เรื่อง ไม่ไปห้างอาทิตย์เว้นอาทิตย์จากที่เคยไปทุกอาทิตย์ แล้วพยายามลดลงเรื่อยๆ อย่าลืมว่าถ้าไม่เริ่ม ก็ไม่มีวันสิ้นสุด
Leave a comment
You must be logged in to post a comment.