คลิ้กเลย!! เทพแห่งเงินด่วน โทร 0928840418 <- จิ้มที่ตัวเลขแล้วกดโทรเลย

News Ticker

ดอกเบี้ยซื้อรถที่ 2.5 % ถูกจริงหรือ ทำไมถูกกว่าดอกเบี้ยซื้อบ้าน

ดอกเบี้ยซื้อรถที่ 2.5 % ถูกจริงหรือ ทำไมถูกกว่าดอกเบี้ยซื้อบ้าน

ท่านเคยแปลกใจหรือไม่ว่า ดอกเบี้ยซื้อรถดูตัวเลขแล้วน้อยกว่า ดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้านเกือบครึ่งต่อครึ่ง ในขณะที่ทรัพย์สินที่เป็นบ้านนั้นมีความเสี่ยงต่ำกว่ารถเยอะ ตอนนี้ดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้านเท่าที่เห็นก็ราวๆ 6 % คงที่ 1 ปี (ธนาคารพาณิชย์) ในขณะที่ดอกเบี้ยซื้อรถ ต่ำสุดอยู่ ราวๆ 2 % คำถามจึงมีอยู่ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น

คำตอบเบื้องต้นก็คือ วิธีการคิดดอกเบี้ยที่ต่างกัน พูดกันง่ายๆ ดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้านนั้นคิดแบบลดต้นลดดอก ในขณะที่ดอกเบี้ยเช่าซื้อนั้นคิดแบบคงที่ ดังตารางสรุปข้างล่าง

ซื้อบ้านเช่าซื้อ

การคิดดอกเบี้ย ลดต้นลดดอก คงที่
การคำนวนค่างวด ยาก ง่าย
นายทุนทำกำไร ไม่มาก มาก

การคิดดอกเบี้ย

-ลดต้นลดดอก

การคิดดอกเบี้ยแบบนี้หมายถึงว่าในแต่ละเดือนจะมีการคิดดอกเบี้ยไม่เท่ากันซึ่งจะขึ้นอยู่กับเงินคงเหลือ โดยในช่วงแรกของการผ่อนชำระนั้น ค่างวดที่จ่ายไปจะนำไปจ่ายดอกเบี้ยเสียเป็นส่วนใหญ่ หรือที่เรียกว่าเป็นแบบ Front Load ส่วนที่เหลือก็จะนำไปหักออกจากเงินต้นที่เหลือ แล้วนำเงินคงเหลือนั้นมาใช้ในการคำนวนดอกเบี้ยในเดือนถัดๆไป
เรามาดูตัวอย่างง่ายๆ สมมุติว่า คุณไปกู้เงินมา 1,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 12 % ต่อปี ก็ตกเดือนละ 1 % ถ้าคุณชำระเดือนละ 100 บาท ผ่านไปเดือนแรกคุณก็จะต้องจ่ายดอกเบี้ย 10 บาท ( 1 % ของเงิน 1000 บาท) สรุปดังตาราง

เดือนที่ เงินต้นคงเหลือ ค่างวด ชำระดอกเบี้ย ชำระเงินต้น
1 1000 100 10 90
2 910 100 9.1 90.9
3 819.1 100 8.19 91.81
4 727.29 100 7.27 92.73
5 634.56 100 6.35 93.65
6 540.91 100 5.41 94.59
7 446.32 100 4.46 95.54
8 350.78 100 3.50 96.5
9 254.28 100 2.54 97.46
10 156.82 100 1.57 98.43
11 58.39 64.23 5.84 58.39
64.23 1000

จะเห็นว่าในระยะเวลาเพียง 11 เดือน ที่คุณชำระประมาณเดือนละ 10% ของเงินที่กู้มา คุณก็จะชำระหมดทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย คุณจ่ายดอกเบี้ยทั้งสิ้นเกือบ 65 บาท ถ้าคุณชำระค่างวดมากขึ้น คุณก็จะจ่ายดอกเบี้ยน้อยลง และผ่อนหมดเร็วขึ้น ข้อสังเกตอีกอย่างก็คือว่า หากคุณมีโจทย์ตั้งต้นว่า จะกู้เงินต้นจำนวนหนึ่งด้วยอัตราดอกเบี้ยเท่านี้เปอร์เซ็นต์ คุณจะคำนวนได้ยากว่าต้องผ่อนชำระงวดละเท่าใดจึงจะผ่อนหมดในเวลาที่กำหนด

หรือในอีกกรณีหนึ่ง หากกำหนดเงินค่างวดในแต่ละงวดออกมา ก็จะไม่ทราบว่าเมื่อใหร่จะผ่อนหมด การคำนวนต้องใช้สูตรทางคณิตศาสตร์มาช่วย ซึ่งเครื่องคิดเลขธรรมดาไม่สามารถทำได้ แล้วจะตรวจสอบได้อย่างไรว่าต้องจ่ายดอกเบี้ยทั้งหมดเท่าใหร่ เราจ่ายเงินเกินหรือเปล่า ผู้ให้กู้ก็ไม่แน่ใจว่าเราจ่ายน้อยไปหรือเปล่า

ลองเอาโจทย์นี้ไปคิดดูเล่นๆ ว่าจากตารางข้างต้น หากผ่อนเดือนละ 200 บาท จะใช้เวลากี่เดือน แล้วต้องเสียดอกเบี้ยทั้งหมดเท่าใหร่ การจะทำได้เร็วที่สุดก็คงต้องใช้โปรแกรมประเภท Exel มาคำนวนถึงจะรู้ว่าหมดภายในกี่งวดและจ่ายดอกเบี้ยทั้งหมดเท่าไหร่

– อัตราดอกเบี้ยคงที่

การคิดดอกเบี้ยวิธีนี้จะทำได้ง่าย บริษัทไฟแนนซ์รถทั้งมอเตอร์ไซค์และรถยนต์มักจะนิยมใช้ เพราะทำให้อัตราดอกเบี้ยดูเหมือนว่าจะต่ำ เช่นยกตัวอย่างเดิมของเงินกู้คือ จำนวน 1,000 บาท ดอกเบี้ย 12% ต่อปี หากต้องการผ่อนในระยะเวลา 11 เดือน (ให้เหมือนกรณีด้านบน) เท่ากับว่าเราต้องจ่ายดอกเบี้ยที่อัตราคงที่ (Fixed rate) ที่ 1 % ต่อเดือน

ระยะเวลาทั้งหมด 11 เดือน จำนวนดอกเบี้ยต่อเดือนคือ 0.01 x 1,000 = 10 บาท เมื่อรวมดอกเบี้ยทั้ง 11 เดือนก็จะเป็น 110 บาท รวมเงินต้น 1,000 บาท เท่ากับต้องจ่ายคืนทั้งสิ้น 1110 บาท

นั่นคือเราผ่อนอัตราคงที่ 1110 / 11 เท่ากับเดือนละ 100.909 บาทเป็นระยะเวลา 11 เดือน จากด้านบนที่จ่ายเพียงเดือนละ 100 บาท 10 เดือนและเดือนสุดท้ายจ่ายเพียง 64.23 บาทเท่านั้น

หรือหากคำนวนใหม่ถ้าต้องการผ่อนชำระเพียง 10 เดือน ก็คำนวนใหม่ได้ง่ายๆ ดอกเบี้ยเดือนละ 10 บาท 10 เดือนก็ 100 บาท รวมเงินต้นเป็น 1100 บาท หารด้วย 10 เดือน เท่ากับจ่ายเดือนละ 110 บาทด้วน

คราวนี้หากกลับมาเทียบตัวเลขทั้งสองแบบคือการคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกและแบบอัตรคงที่ จะพบว่าการคิดดอกเบี้ยแบบอัตราคงที่จำนวน 11 เดือนนั้น จะจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นอีก 45.77 บาท หรือเพิ่มอีก 70% ของดอกเบี้ยเดิม การคำนวนก็แสนง่ายแถมดอกเบี้ยได้เพิ่มขึ้นมาอีก ยิ่งหากเลือกผ่อนในระยะเวลานานๆ ดอกเบี้ยก็สูงขึ้นมาก

ในแง่ของตัวเลขอัตราดอกเบี้ย แบบลดต้นลดดอก 12% ต่อปี ผ่อน 11 เดือนจะจ่ายดอกเบี้ยทั้งหมด 64.23 บาท แต่หากเรานำมาทำการคำนวนแบบอัตราดอกเบี้ยคงที่ โดยต้องการจ่ายดอกเบี้ยเท่าเดิมที่ 64.23 บาท จะคำนวนอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 7.02 % เท่านั้น (7.02/12 = 0.00585 ต่อเดือน x 1000 x 11 = 64.35) จะเห็นได้ว่าตัวเลขอัตราดอกเบี้ย 12% กับ 7.02% นั้นต่างกันเกือบ 5% เท่ากับว่าการคิดดอกแบบลดต้นลดดอกจะเห็นตัวเลขดอกเบี้ยที่ 12% แต่หากคิดแบบคงที่จะเห็นตัวเลขเพียง 7.02% ความรู้สึกมันต่างกันเยอะ

ในต่างประเทศเลยมีการกำหนดให้มีการแสดงอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงเอาไว้ ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ลูกค้าจ่ายจริง เพื่อจะได้เปรียบเทียบกันให้เห็นชัดเจนว่าคิดดอกแบบไหนก็ตามโดยรวมแล้วลูกค้าต้องจ่ายกี่เปอร์เซ็นต์ต่อปีกันแน่

ปัจจุบันสถาบันการเงินในไทยจะคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้านแบบลดต้นลดดอก แต่สินเชื่อรถยนต์และมอเตอร์ไซค์จะเป็นแบบคงที่ ส่วนบัตรเครดิต และบัตรกดเงินสด ส่วนใหญ่จะคิดแบบลดต้นลดดอก ยกเว้นการกู้เงินที่ระยะเวลาเช่น 6 เดือน 12 เดือนอย่างการผ่อนสินค้าที่จะมีการคิดแบบอัตราคงที่

ที่มา บทความนี้เคยเขียนไว้เมื่อประมาณ 9 ปีที่แล้ว สมัยที่ยังไม่มี WordPress

Leave a comment