Tweet

คุณพร้อมจะซื้อบ้านหรือยัง

ใครๆก็อยากมีบ้านอยู่อาศัยเป็นของตนเอง แต่หากถามว่าพร้อมจะซื้อบ้านหรือยัง ท่านอาจจะมีคำตอบอยู่ในใจว่าพร้อมเสมอแต่ไม่มีตังค์พอ แต่ตรงนี้ขอไม่พูดถึงหัวข้อนั้นก็แล้วกัน เพียงแต่ลองสำรวจตัวเองซิว่าพร้อมที่จะซื้อบ้านหรือยัง

ไม่ว่าจะถามใครด้วยคำถามนี้ คำตอบที่ได้คงหนีไม่พ้นที่ว่า พร้อมที่จะซื้อตลอดเวลาแต่ไม่มีเงิน แต่ในที่นี้จะหมายถึงว่าหากคุณมีกำลังพอที่จะซื้อ แต่ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเช่าบ้านหรือคอนโดอยู่ต่อไป หรือว่าจะซื้อดี แล้วก็จะซื้อช่วงไหนดี รอให้ราคาตกกว่านี้หรือเปล่า และคำถามอื่นๆ อีกมากมาย

ซื้อหรือเช่า

ถ้าหากภาวะทางการเงินของคุณมีความพร้อมอยู่ในระดับหนึ่งแล้วละก็ การตัดสินใจซื้อน่าจะดีกว่าการเช่า เพราะเหตุผลของการเช่าบ้านนั้นก็มักจะเป็นกรณีที่ต้องการที่อยู่อาศัยในระยะเวลาสั้นๆ ตามความจำเป็นที่มีอยู่ เงินที่คุณเช่านั้นก็จะเสียไปเลย แต่จุดดีของการเช่าคือคุณจะย้ายออกเมื่อไหร่ก็ได้ ย้ายไปบ้านที่หลังใหญ่กว่าทำเลที่ดีกว่าก็สะดวก แต่อย่าลืมว่าการซื้อบ้านนั้นน่าจะมีประโยชน์มากกว่าในหลายๆ ด้าน ตัวอย่างเช่น

• เงินงวดจะมากกว่าค่าเช่าเพียงนิดหน่อยในลักษณะบ้านแบบเดียวกัน
• การสร้างและสะสมเฟอร์นิเจอร์ต่างได้สบายใจขึ้น ไม่ต้องห่วงว่าจะต้องโยกย้าย หรือกลัวทรัพย์สินเสียหาย
• การต่อเติม ตกแต่งทำได้ตามใจชอบ ไม่ต้องขออนุญาตจากใคร และไม่เสียดายเวลาต้องย้ายออก
• มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง เวลาทำธุรกรรมทางการเงินจะมีความน่าเชื่อถือสูงกว่า (ข้อเสียก็คือวิ่งหนีเจ้าหนี้ยากหน่อย)
• บ้านและที่ดินเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงขึ้นในอนาคต เงินงวดที่จ่ายไปไม่สูญเปล่า
• ดอกเบี้ยเงินกู้สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้

ในต่างประเทศการเช่าบ้านอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีเพราะ วัฒนธรรมการย้าถิ่นจะมีสูง การบำรุงรักษาบ้านถือเป็นข้อกำหนดอย่างหนึ่งในการเช่า แต่ในบ้านเราความหมายของบ้านเช่าคือบ้านที่โทรมๆ ขาดการดูแล ยิ่งมีราคาถูกยิ่งไม่น่าอยู่ ฉะนั้นหากคุณยังเช่าบ้านอยู่แล้วละก็ ลองคิดดูว่าเปลี่ยนมาซื้อบ้านจะคุ้มค่ากว่าหรือไม่

ซื้อตอนไหนดี

หากคุณอยู่ระหว่างตัดสินใจหาจังหวะเหมาะแล้วละก็ พิจารณาหลายๆ ตัวแปรว่าถึงภาวะที่เหมาะสมหรือยัง

1. อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง หากนำอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือนแล้วลบด้วยอัตราเงินเฟ้อแล้วต่ำกว่า 4 % แล้วละก็ซื้อบ้านดีกว่า
2. เศรษฐกิจโดยรวม หากเศรษฐกิจโดยรวมเริ่มนิ่งก็ควรตัดสินใจซื้ออย่ารอให้เศรษฐกิจฟื้นตัวมากเกินไป เพราะกำลังซื้อจะมีมากทำให้ข้อต่อรองของคุณลดค่าลง
3. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่ารอให้เศรษฐกิจฟื้น เพราะคุณจะเหลือข้อต่อรองน้อยลง
4. ภาวะตลาดบ้าน ถ้าเศรษฐกิจซบเทราตลาดย่อมเป็นของผู้ซื้อ สมควรรีบตัดสินใจซื้อ
5. แนวโน้มราคาบ้าน แนวโน้มจะมีราคาสูงขึ้นตามราคาวัสดุก่อสร้าง ตามสภาพเศรษฐกิจ
6. ตรวจสอบกำลังซื้อ ผ่อนเงินงวดได้ประมาณ 30 % ของเงินเดือนและกู้ได้ 20 – 30 เท่าของเงินเดือน Debt ratio ปัจจุบัน ต่ำกว่า 40 % ก็ควรตัดสินใจซื้อได้เลย
7. เลือกทำเล แบบบ้าน ผู้ประกอบการ เมื่อได้ตามที่ต้องการก็ตัดสินใจซื้อแล้วย้ายเข้าอยู่ได้เลย

สรุปแล้วภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันที่อัตราดอกเบี้ยต่ำ จนแทบจะต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อ สภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่ตลาดยังเป็นของผู้ซื้อ หากคุณมีกำลังหรือแนวโน้มว่าจะมีกำลังซื้อก็ควรจะตัดสินใจซื้อบ้านดีกว่าเช่าเขาอยู่