คลิ้กเลย!! เทพแห่งเงินด่วน โทร 0928840418 <- จิ้มที่ตัวเลขแล้วกดโทรเลย

News Ticker

ออมสินเผยซอฟท์โลนรอบสองวงเงินเต็ม 5 หมื่นล้านบาทแล้ว

ออมสินเผยซอฟท์โลนรอบสองวงเงินเต็ม 5 หมื่นล้านบาทแล้ว

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยถึงมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้ดำเนินการภายใต้ “มาตรการการเงินการคลังเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในระยะเร่งด่วน” ผ่าน “โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน) เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs” ระยะที่ 2 วงเงิน 50,000 ล้านบาท ว่าธนาคารออมสินได้ปล่อยกู้จนเต็มวงเงินแล้ว

สำหรับโครงการนี้เป็นโครงการที่ให้สถาบันการเงินนำไปปล่อยสินเชื่อต่อแก่ผู้ประกอบการ SMEs ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2559 ที่ผ่านมา โดยการปล่อยกู้เต็มวันเงินเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2559 ซึ่งเงินจำนวนนี้ทำให้ผู้ประกอบการ SMEs รายย่อยตามเงื่อนไขใหม่เข้าร่วม 9,700 ราย ได้รับความช่วยเหลือคิดเป็นวงเงินเฉลี่ยต่อรายประมาณ 5.1 ล้านบาท

โครงการระยะแรกเมื่อปลายปีที่แล้ว มีผู้ประกอบการ 11,750 รายได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนโครงการวงเงิน 100,000 ล้านบาท ถือว่าโครงการนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และมาถึงโครงการระยะที่ 2 เพียงไม่ถึง 1 เดือน วงเงิน 50,000 ล้านบาท ก็หมดลง เม็ดเงินไปถึงผู้ SMEs รายย่อยอีกร่วม 9,700 ราย นายชาติชาย กล่าว

ทั้งนี้ในการปล่อยกู้ตามโครงการนี้ มีสถาบันการเงินจำนวน 20 แห่งที่เข้าโครงการและได้เบิกใช้วงเงิน ได้แก่

1. ธนาคารกรุงเทพ ประมาณ 12,800 ล้านบาท
2. ธนาคารไทยพาณิชย์ ใช้วงเงินประมาณ 7,600 ล้านบาท
3. ธนาคารกรุงไทย กว่า 6,400 ล้านบาท
4. ธนาคารกสิกรไทย 6,100 ล้านบาท
5. ธนาคารออมสิน 4,100 ล้านบาท
6. ธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) จำนวนกว่า 3,600 ล้านบาท
7.สถาบันการเงินอื่นๆ อีกรวมกว่า 9,000 ล้านบาท

สำหรับรายละเอียดของโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำฯ วงเงิน 50,000 ล้านบาทนั้น มีระยะเวลาดำเนินการ 7 ปี โดยเป็นการปล่อยกู้ให้แก่สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐและธนาคารพาณิชย์ ในอัตราดอกเบี้ย 0.1% ต่อปี เพื่อนำปล่อยกู้โดยตรงให้กับผู้ประกอบการในอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 4% ต่อปี โดยระยะ 2 มีเงื่อนไขแตกต่างจากโครงการระยะแรก เพียงแค่เงื่อนไขเดียว คือ จำกัดวงเงินสินเชื่อต่อรายไว้ไม่เกิน 10 ล้านบาท (โครงการแรกกำหนดไว้ไม่เกิน 50 ล้านบาท) ส่วนเงื่อนไขอื่นๆ จะเหมือนโครงการก่อนหน้านี้

ที่มา infoquest

Leave a comment