ระวังอยู่ดีๆจะเป็นเจ้าของบริษัทโดยไม่รู้ตัว บัตรปชชโดนนำไปจดทะเบียนบริษัท
ระวังอยู่ดีๆจะเป็นเจ้าของบริษัทโดยไม่รู้ตัว บัตรปชชโดนนำไปจดทะเบียนบริษัท เลี่ยงภาษี
กระทรวงพาณิชย์เตือนประชาชน ระวังถูกพวกขี้โกงนำบัตรประชาชนและข้อมูลในบัตรไปจดตั้งบริษัท หลังได้รับร้องเรียนถูกเอาชื่อไปเป็นกรรมการบริษัท ทั้งๆ ที่ไม่รู้เรื่อง แนะหากใครสงสัยให้รีบเช็กด่วน ทั้งที่กรมพัฒน์ฯ หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัด พร้อมสั่งนายทะเบียนตรวจเข้ม และจี้ผู้รับรองลายมือชื่อ ทั้งทนายความ ผู้สอบบัญชี ผู้ทำบัญชี ต้องดูให้ดี หากเพิกเฉย มีสิทธิ์ถูกถอนใบอนุญาต
นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ออกมาเปิดเผยว่า ทางกรมฯ ขอแจ้งเตือนประชาชนให้ระวังการถูกนำบัตรประจำตัวประชาชนและข้อมูลในบัตรไปสวมรอยจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลโดยไม่รู้ตัว หรือนำไปใช้ในทางผิดกฎหมาย หลังจากมีผู้ร้องเรียนว่าไม่เคยจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล แต่มีชื่อเป็นกรรมการของบริษัทจำกัด เพื่อประกอบกิจการประเภทต่างๆ ซึ่งกรมฯ ได้กำชับให้นายทะเบียนที่พิจารณาการจดทะเบียนนิติบุคคลให้ตรวจสอบเอกสารการยื่นขอจดทะเบียนด้วยความรอบคอบ หากเกิดข้อสงสัยให้เชิญกรรมการผู้ขอจดทะเบียนมายืนยันตัวตนก่อน
“กรมฯ ขอเตือนประชาชนในการนำบัตรประจำตัวประชาชนและข้อมูลในบัตรมอบให้แก่ผู้อื่น เพื่อนำไปใช้ในกิจธุระต่างๆ ให้มีความระมัดระวังเป็นพิเศษ หากมอบอำนาจให้ผู้อื่นกระทำการแทนสิ่งหนึ่งสิ่งใด ก็ควรที่จะทราบเหตุผลการนำบัตรไปใช้ให้ชัดเจน เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นและได้รับความเดือดร้อนได้ในภายหลัง และหากสงสัยหรือกังวลว่าตนเองจะถูกหลอกลวงในการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล โดยมีกลุ่มบุคคลหรือนายหน้ามาขอบัตรประจำตัวประชาชน หรือข้อมูลบัตรไป หรือได้รับความเดือดร้อนจากกรณีดังกล่าว ให้รีบติดต่อกรมฯ หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกแห่งโดยด่วน”นางกุลณีกล่าว
นางกุลณีกล่าวว่า กรมฯ ยังได้ขอให้บุคคลที่รับรองลายมือชื่อกรรมการผู้ขอจดทะเบียน เช่น ทนายความ ผู้สอบบัญชี ผู้ทำบัญชี ต้องให้กรรมการผู้ขอจดทะเบียนลงลายมือชื่อต่อหน้าเท่านั้น เพื่อป้องกันการนำบัตรประจำตัวประชาชนและข้อมูลในบัตรของผู้อื่นมายื่นจดทะเบียนนิติบุคคล โดยหากพบว่าการลงลายมือชื่อรับรองโดยไม่ตรวจสอบหรือปฏิบัติให้ถูกต้อง อาจเป็นเหตุให้ถูกเพิกถอนใบอนุญาตได้
สำหรับการลวงนำบัตรประชาชนและข้อมูลในบัตรไปใช้ในทางผิดกฎหมายในปัจจุบัน พบว่า มีกลุ่มบุคคลมักจะใช้ข้ออ้างในการนำบัตรประจำตัวประชาชนและข้อมูลในบัตร ไปเพื่อร่วมกิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆ หรือเพื่อการสาธารณกุศลอื่นๆ มาใช้เป็นเครื่องมือ เพื่อให้ผู้ถูกหลอกลวงยินยอม หลังจากนั้นก็จะนำไปจดทะเบียนบริษัท แล้วทำการหลบเลี่ยงภาษี เมื่อได้รับการตรวจสอบจะหาตัวผู้กระทำผิดจริงไม่เจอ
ข่าวจาก https://mgronline.com/business/detail/9610000018601
Leave a comment
You must be logged in to post a comment.