รัฐแจกเงินผู้มีรายได้น้อย 5.4 ล้านคนผ่านธนาคาร หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ
รัฐแจกเงินผู้มีรายได้น้อย 5.4 ล้านคนผ่านธนาคาร หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายพรชัย ฐีระเวช รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยถึงมาตรการเพิ่มรายได้ให้กับผู้มีรายได้น้อยในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ โดยจะมีการประสานไปยังธนาคารของรัฐคือ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เพื่อเตรียมพร้อมในการโอนเงินที่จะเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมนี้
โดยจากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมาซึ่งเห็นชอบในมาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อย ในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อให้ดำเนินการดังกล่าวครอบคลุมผู้มีรายได้น้อย นอกเหนือจากโครงการเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้มีรายได้น้อยก่อนหน้านี้เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มที่ไม่ใช่เกษตรกรด้วย
สำหรับสาระสำคัญมีดังนี้คือ
– คุณสมบัติผู้มีสิทธิ์: เป็นผู้ลงทะเบียนในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐที่เปิดให้ลงทะเบียนเมื่อวันที่ 15 กรกฏาคม – 15 สิงหาคม 2559 นอกเหนือจากเกษตรกรที่ได้รับความช่วยเหลือจากมติ ครม. เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2559 ซึ่งลงทะเบียนผ่านธนาคารของรัฐทั้ง 3 หากลงทะเบียนแล้วและตรวจสอบกับเว็บไซท์กรมสรรพากรแล้วไม่ปรากฏชื่อให้นักเอกสารจากธนาคารตอนลงทะเบียนไปติดต่อสาขาธนาคารที่เคยไปติดต่อภัยในวันที่ 15 ธันวาคม 2559
– จำนวนผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนผ่านโครงการ : จากข้อมูลฐานข้อมูลกรมสรรพากรที่ผ่านการตรวจสอบเบื้องต้นพบผู้ลงทะเบียน 8.3 ล้านคน โดยเป็นเกษตรกร 2.9 ล้านคน และไม่ใช่เกษตรกร 5.4 ล้านคน
– เกณฑ์การช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่ไม่ใช่เกษตรกร : ใช้เส้นความยากจนที่คำนวณโดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นเกณฑ์ในการอ้างอิง โดยในปี 2557 อยู่ในระดับ 30,000 บาทต่อคนต่อปี
การให้เงินช่วยเหลือเป็นดังนี้
1) รายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี เงินช่วยเหลือ 3,000 บาทต่อคน
2) รายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี เงินช่วยเหลือ 1,500 บาทต่อคน
ซึ่งรวมวงเงินประมาณการทั้งสิ้น 12,750 ล้านบาท
– วิธีการโอนเงิน : ให้ธนาคารของรัฐดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีผู้มีรายได้น้อยที่ไม่ใช่เกษตรกรที่ลงทะเบียนตามโครงการไว้แล้วกับธนาคารโดยแบ่งเป็นสองกรณีคือ
1) กรณีเป็นลูกค้าธนาคาร ให้ตรวจสอบเงินในบัญชีภายใน 7 วัน หากมีมากกว่า 1 บัญชีให้ตรวจสอบบัญชีที่มีการเคลื่อนไหวล่าสุด
2) กรณีไม่เป็นลูกค้าธนาคาร ให้ไปแสดงดัวและเปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคาร และตรวจสอบเงินในบัญชีภายใน 7 วัน
– กรอบระยะเวลาดำเนินการ : ให้ธนาคารของรัฐทั้ง 3 โอนเงินเข้าบัญชีผู้มีสิทธิ์ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2559 – 30 ธันวาคม 2559
– วงเงินงบประมาณ : กรอบวงเงิน 12,750 ล้านบาท
Leave a comment
You must be logged in to post a comment.