Tweet

CIMBT ตั้งเป้าสินเชื่อปี 59 โต 15-25% จากปีก่อน,คุม NPL ต่ำกว่า 3.2%

นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ปี 2559 นี้ธนาคารตั้งเป้าหมายสินเชื่อเติบโตได้ 15 – 25 % เมื่อเทียบจากปีก่อนที่ทำได้ 4.3 % และคาดการขยายเงินฝาก จะเติบโตราว 15 – 25 % เช่นกัน

ขณะเดียวกันธนาคารก็จะเน้นไปที่การเพิ่มรายได้ในส่วนของดอกเบี้ย ซึ่งน่าจะเติบโต 15 – 20% และเพิ่มรายได้ในส่วนที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยให้เติบโต 5-10% รวมถึงรักษาอัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากให้อยู่ที่ระดับ 90-93% และควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL ให้ต่ำกว่า 3.2% จากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 3.1%

ปัจจุบันธนาคารมีพอร์ตสินเชื่อรวมประมาณ 190,000 ล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ราว 55,000 ล้านบาท ธุรกิจ SME ราว 50,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะเป็นธุรกิจลูกค้ารายย่อย

นอกจากนี้แล้วธนาคารจะขยับส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ให้มากกว่า 3.3% จากตัวเลขปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 3.3% โดยเป็นระดับที่อยู่อันดับ 2 ของระบบธนาคาร

“ปีนี้เศรษฐกิจโลกน่าจะยังคงย่ำแย่ และมีความผันผวนสูง ส่วนเศรษฐกิจในประเทศก็มีปัจจัยเสี่ยงในเรื่องของภัยแล้ง ซึ่งหลายอุตสาหกรรมที่เรามองว่าจะได้รับผลกระทบ คือ อาหารทะเล สิ่งทอ เป็นต้น

ฉะนั้นตัวแปรที่จะเข้ามากระตุ้น คือ การลงทุนของภาครัฐ และการท่องเที่ยว โดยในสภาวะแบบนี้ เราก็คงจะเน้นในเรื่องของการควบคุมการปล่อยสินเชื่อ หรือต้องให้ความระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะในธุรกิจรายย่อย ที่เราคงจะมีการปรับกฎเกณฑ์ให้สอดคล้องกับลักษณะของธุรกิจของกลุ่มนั้นๆ ประกอบกับจะเน้นการขยายส่วนต่างของดอกเบี้ย รวมถึงสร้างรายได้ที่ไม่ได้อิงดอกเบี้ยให้เติบโตเพิ่มขึ้นอีกด้วย

นอกจากนี้ก็จะยังคงสานต่อกับพันธมิตรที่มีอยู่ เช่น เอไอเอส และก็มองหาพันธมิตรใหม่ๆเข้ามาเพิ่มเติม” นายสุภัค กล่าว

ด้านธุรกิจลูกค้ารายย่อยปีนี้ธนาคารตั้งเป้าหมายขยายฐานลูกค้าใหม่อีก 2.85 แสนราย จากปัจจุบันอยู่ที่ 6 แสนราย แบ่งเป็นลูกค้าเงินฝากรายใหม่ 2 แสนราย จากปัจจุบัน 4 แสนราย ลูกค้าสินเชื่อรายใหม่ 8.5 หมื่นราย จากปัจจุบัน 2 แสนราย ลูกค้าบัตรเครดิตรายใหม่ 3 หมื่นใบ จากปัจจุบันมีฐานลูกค้า 2.2 หมื่นใบ ลูกค้าบุคคลธนกิจ CIMB Preferred อีก 1.2 หมื่นราย จากปัจจุบัน 4.8 หมื่นราย

ทั้งนี้ในการดำเนินกลยุทธ์ธุรกิจกับลูกค้ารายย่อย จะมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ในการทำธุรกิจ ควบคู่กับเครื่องมืออย่างอินเตอร์เน็ต แท็บเล็ต และโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะได้เห็นการต่อยอดธุรกิจและบริการ บนนวัตกรรมธุรกรรมการเงิน Digital Solution Engagement หรือ DSE ที่ทำให้ลูกค้าเข้าถึงบริการได้ง่ายขึ้น เร็วยิ่งขึ้น และจะมีการขยายความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจอย่างค่ายมือถือและร้านสะดวกซื้อเป็นต้น

นอกจากนี้ Digital Banking ของธนาคาร ภายใต้ชื่อ Beat Banking จะเพิ่มลูกค้าเข้ามาใหม่อีก 1 แสนรายภายในปีนี้ จากการเป็นพันธมิตรรายเดียวของ AIS และ AIS จะเพิ่มจำนวนจุดให้บริการในการรับเปิดบัญชีเงินฝากอิเล็กทรอนิกส์เป็น 170 แห่งในปีนี้

ข่าวจาก infoquest