คำแนะนำทางการเงินที่ไม่ควรมองข้าม
ตลอดชีวิตที่ผ่านมาผมมักจะถามตัวเองว่า คำแนะนำทางการเงินที่คนรอบข้างพร่ำสอนอะไรบ้างที่สำคัญและทำให้ผมเป็นตัวเป็นตนเหมือนทุกวันนี้
แม้ว่าผมจะยังต้องเรียนรู้อีกมาก ไม่ได้เป็นเศรษฐีร้อยล้านพันล้านกับเขา แต่ก็คิดว่าพอเอาตัวรอดอยู่ได้โดยไม่ต้องไปรบกวนใครๆ
ตัวผมเองพยายามระมัดระวังเรื่องเงินๆทองๆมาตลอด โดยไม่กู้เงินมาใช้เกินตัว ไม่ไปค้ำประกันหนี้ให้ใคร ไม่ให้ใครยืมเงินจำนวนมากๆ
แม้ว่าจะมีสิ่งผิดพลาดขึ้นมาบ้าง แต่สภาพโดยรวมถือว่ายังไม่เคยเข้าขั้นวิกฤตที่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินจำนวนมากเพื่อบรรเทาปัญหาทางการเงิน จะมีก็แต่การกู้ยืมเงินในระบบเพื่อซื้อบ้านซื้อรถเหมือนชนชั้นกลางค่อนข้างต่ำทั่วไป
คำแนะนำทางการเงินต่อไปนี้ เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะผมคิดและทำมันอยู่ตลอด เพื่อสุขภาพทางการเงินที่ดี
ใช้เวลาว่างเพื่อหารายได้พิเศษ
ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมแล้วครับที่ผมได้เรียนรู้การหารายได้พิเศษ เริ่มจากปลูกผัก ผลไม้เพิ่มเติมจากส่วนที่ต้องช่วยพ่อแม่ทำ ต่อมาก็เริ่มรับงานเล็กๆน้อยๆด้านไฟฟ้าอิเลคทรอนิคส์
จนมาถึงช่วงเรียนต่อระดับสูงขึ้น แทนที่จะไปเล่นเกมส์เที่ยวเตร่ ผมก็เปิดหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นหางานเล็กๆทำระหว่างเรียน
สิ่งเหล่านี้นับได้ว่าส่งผลกระทบต่อชีวิตในด้านการทำงานกับผมมาก เพราะตอนช่วงทำงานประจำใหม่ๆ ผมคิดว่าการทำงานก็แค่ไปเช้าเย็นกลับบ้าน และคิดว่าคนอื่นๆก็คงเป็นแบบนั้น
จนมาถึงช่วงที่รายจ่ายแทบจะเกินรายรับ ทำให้ผมคิดว่าต้องใช้ความรู้ความสามารถที่มีอยู่ในการหารายได้พิเศษเพิ่มเติม และทำให้ค้นพบว่า คนเรามีรายได้เพียงทางเดียวจะไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้
เราต้องมีรายได้จากหลายๆทาง เพื่อความมั่นคงในชีวิต และมีเงินเก็บสะสมไว้ใช้ยามจำเป็นอีกด้วย
หากคนทำงานประจำอยู่ ก็ลองมองหาลู่ทางเริ่มต้นหางานพิเศษทำ โดยพยายามหางานที่ไม่ต้องลงทุนอะไรมากมายก่อน เช่นการขายของทางเน็ต การทำ Dropship จนกระทั่งไปถึงการลงทุนลงแรงเล็กน้อยเช่นขายของตามตลาดนัด ที่ค่อยๆเติบโตขึ้นมาเรื่อยๆ พร้อมกับหาลู่ทางลงทุนอย่างอื่นไปด้วย
ผมเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมว่าการหารายได้พิเศษเพิ่มเติมจะเปลี่ยนแปลงชีวิตคุณไปในทางที่ดีขึ้น คุณไม่ต้องกังวลกับรายได้เดือนชนเดือน ชำระหนี้ต่างๆให้หมดเร็วขึ้น และอื่นๆ ทั้งหมดมาจากการเรียนรู้ว่าจะหารายได้พิเศษอย่างไร
คุณมีความสามารถที่จะเดินทางท่องเที่ยวได้
บทเรียนทางการเงินที่ยิ่งใหญ่อันหนึ่งที่ผมได้รับเมื่อตอนสมัยเรียนคือ ให้ท่องเที่ยวหาประสบการณ์ระหว่างเรียนหรือวัยทำงาน เพราะถ้าคิดจะท่องเที่ยวหลังเกษียณอายุแล้วจะไม่มีแรงไป และคุณสามารถทำได้ถ้าตั้งใจจริง
ปัจจุบันเรื่องแบบนี้แทบไม่ต้องแนะนำสำหรับหนุ่มสาววัยแรงงาน เพราะบางคนถึงขึ้นต้องกู้หนี้ยืมสินเพื่อไปท่องเที่ยวต่างประเทศ การทำแบบนี้ผมไม่ขอแนะนำ
สิ่งที่แนะนำคือ ในขณะที่ทำงานอยู่เราควรสะสมเงินส่วนหนึ่งไว้เพื่อการท่องเที่ยว บริหารจัดการด้านการเงินไว้สำหรับการท่องเที่ยวช่วงเทศกาลต่างๆ หรือการลาพักร้อนเพื่อไปท่องเที่ยวกับครอบครัว
แนวคิดในลักษณะนี้จะทำให้คุณภาพชีวิตของเราดีขึ้น สุขภาพจิตของเราจะแจ่มใส เพราะเราจะตั้งหน้าตั้งตารอคอยกับทริปที่จะเกิดขึ้นในเวลาอันใกล้
บางคนตลอดชีวิตมัวแต่ทำงานจะไม่มีเวลาได้เปิดหูเปิดตา จะมาท่องเที่ยวอีกทีก็อายุเยอะแล้วไม่สามารถท่องโลกกว้าง ไปในสถานที่ๆต้องเดินไกลๆ หรือต้องใช้พละกำลังมากขึ้นได้ แม้จะมีเงินเยอะแล้วก็ตาม
คำแนะนำคือ อย่าเป็นหนี้เพื่อจะไปเที่ยว เพราะกลับมาจะยิ่งเครียดกว่าเก่า แต่จงสะสมเงินส่วนหนึ่งและท่องเที่ยวไปเรื่อยๆในวัยเรียนและวัยทำงานซึ่งเป็นช่วงที่ยังมีพละกำลังแรงกายอยู่เยอะ
ใช้ชีวิตให้น้อยกว่ารายได้
จะว่าไปแล้วเป็นเรื่องที่ใครๆก็รู้กันดีอยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะทำกันไม่ค่อยได้
ผมจำได้เสมอถึงวันที่ต้องอยู่แบบเดือนชนเดือน แม้ตอนนั้นจะเครียดก็จริงแต่ก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร
ผมมองเห็นคนรอบข้างพยายามกระเสือกกระสนในการหาซื้อรถยนต์ ออกไปทานอาหารนอกบ้าน หรือออกไปช้อปปิ้งซื้อเสื้อผ้าสวยๆ ซึ่งเมื่อก่อนผมเองก็คิดว่าเป็นเรื่องปกติที่ใครๆเขาทำกันแล้วทำให้คิดว่าผมก็ต้องทำแบบนั้นด้วย
ทำให้ทุกๆเดือน เงินเดือนออกมาก็หมดไปกับค่าผ่อนโน่นนี่และค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นและทำให้รู้สึกเครียดกับชีวิต
แม้ว่ามาถึงช่วงหนึ่งของชีวิต ที่ผมจะซื้ออะไรก็ได้ แต่ผมก็พยายามใช้ชีวิตให้น้อยกว่ารายได้เพราะผมตระหนักดีว่ายังมีสิ่งสำคัญอื่นๆอีกมากมายในชีวิตกว่าการซื้อรถยนต์คันหรู หรือหาบ้านหลังใหญ่อยู่
การดำรงชีพด้วยรายจ่ายที่น้อยกว่ารายได้จะทำให้ชีวิตคุณเปลี่ยนไปแน่นอน อย่าคิดว่าถ้าเดือนนี้รายจ่ายมากกว่ารายรับก็แค่เอาเงินเก็บมาใช้ แต่ถ้าทำแบบนี้บ่อยๆ คุณจะเหลือเงินเก็บจากไหนกันเล่า
เริ่มออมเงินให้เร็วที่สุด
ยิ่งเราเริ่มออกเงินเร็วขึ้นเท่าไหร่ เราก็จะติดนิสัยชอบออมเงินเร็วขึ้นเท่านั้น นั่นหมายถึงว่าการรู้สึกอยากจะเก็บเงินจำนวนนั้นๆไว้โดยไม่ใช้จ่ายออกไปจะทำได้ง่ายขึ้น หากคุณเริ่มออมเงินในช่วงอายุราวๆ 20 ปี คุณจะเริ่มเรียนรู้นิสัยการใช้จ่ายที่ดีในอนาคตได้
ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่คุณจะยอมใช้จ่ายเงินก้อนที่มีอยู่ให้หมดไปเพื่อจะได้มีความสุขไปวันๆกับสิ่งที่คุณต้องการ ผมเชื่อว่าจริงๆแล้วคุณสามารถจะใช้ชีวิตได้อย่างสมดุลกับการกินเที่ยวพร้อมๆกับการออมเงินไปด้วย
ยังมีหนทางอีกมากมายในการใช้ชีวิตให้สุดเหวี่ยงไปพร้อมๆกับการออมเงิน เพราะยังจะสามารถพบปะเพื่อนฝูง ออกไปสังสรรกับคนที่เรารัก ออกไปเที่ยวพักร้อน แต่ทุกอย่างควรจะอยู่บนพื้นฐานของสถานภาพทางการเงินที่เป็นจริงของเรา
คนที่ยอมเป็นหนี้เป็นสินเพื่อไปทานอาหารตามโรงแรมหรูๆ ยอมรูดบัตรเครดิตเพื่อไปเที่ยวต่างประเทศ ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อโม้เพื่อน ก็เพราะว่าคนเหล่านี้ไม่มีอะไรที่ทำให้ตัวเองดูโดดเด่น เลยต้องยอมเป็นหนี้เพื่อให้สังคมยอมรับ
แต่ความจริงแล้วการรู้จักอดออมเพื่อวันข้างหน้า การไม่เป็นหนี้ การไม่ต้องไปยืมเงินเพื่อเวลาลำบากต่างหากที่เป็นสิ่งที่จะทำให้ทุกคนยอมรับในตัวคุณ
ดังนั้นจงเริ่มเก็บเงินเสียตั้งแต่วันนี้ แม้จะวันละเล็กละน้อย แต่ก็ดีกว่าไม่ได้คิดจะเริ่มต้นอะไรเลย
อย่าให้เงินมากำหนดชะตาชีวิตคุณ
คำแนะนำที่คนส่วนใหญ่อาจจะมองว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่เงินจะไม่กำหนดชะตาชีวิต เพราะคนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าจะมีชีวิตที่ได้อย่างไรถ้าต้องอยู่อย่างประหยัด
แต่คุณจะพบว่าใครหลายคนสามารถเดินทางท่องเที่ยวไปตามที่ต่างๆได้เมื่อมีโอกาส อย่าให้เงินทองเป็นตัวจำกัดการใช้ชีวิตของคุณ แม้คุณจะใช้จ่ายอย่างประหยัดเก็บเงินสร้างตัวตลอดชีวิตก็ตาม
วิธีการก็คือการใช้จ่ายประหยัดไม่เกินตัว กันเงินส่วนหนึ่งไว้ทุกๆเดือนเพื่อการท่องเที่ยวเปิดโลกกว้าง มันจะทำให้คุณได้เห็นสิ่งต่างๆรอบข้าง และอาจเปิดโอกาสให้คุณได้ค้นพบสิ่งใหม่ๆ เพื่อนำมาพัฒนาคุณภาพชีวิตของตัวคุณเองได้
มองโลกในแง่ดีเมื่อสถานการณ์ทางการเงินเปลี่ยน
การมองชีวิตในแง่ดีจะทำให้เราควบคุมสถานะการเงินของเราได้ แต่ไม่ใช่ว่ามองในแง่ดีว่าจะมีรายได้เข้ามาแล้วรีบกู้เงินล่วงหน้ามาใช้ก่อนนะครับ
แต่เป็นการมองโลกในแง่ดีเมื่อต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงสภาวะทางด้านการเงินของคุณ นั่นเพราะทุกคนมักจะรู้สึกเศร้าเสียใจเป็นบางครั้งแม้ชีวิตที่ผ่านมาจะดีแค่ไหนก็ตาม
บางครั้งความรู้สึกไม่ดีหรือความรู้สึกเศร้าเหล่านั้นอาจจะกัดกินชีวิตคุณและส่งผลกระทบกับชีวิตคุณเอาได้ มันอาจจะทำให้คุณรู้สึกว่าทุกอย่างมันเป็นไปไม่ได้ ทุกคนเกลียดคุณ คุณคิดจะยอมแพ้หรืออะไรก็แล้วแต่
คราวนี้พอในช่วงชีวิตหนึ่งเกิดมีปัญหาด้านการเงินขึ้นมา คุณก็จะยิ่งรู้สึกท้อแท้ สิ้นหวัง ไม่มีทางออก การคิดในแง่บวกจะทำให้คุณสามารถฟันฝ่าอุปสรรค์ไปได้
นั่นเพราะไม่มีชีวิตใครสมบูรณ์แบบหรอกครับ แต่ละคนจะมีความแตกต่างกัน มีวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน พวกเราต่างก็ได้เผชิญกับเหตุการณ์ที่ผ่านมาแตกต่างกันที่ทำให้เกิดความรู้สึกลบต่อชีวิต
อย่างไรก็ตาม เราทุกคนต่างก็ค้นหาความสุขในชีวิตของตัวเองกันได้ ความรู้สึกมีความสุขบางส่วนในชีวิตที่ติดตัวคุณอยู่ตอนนี้ รวมถึงการเป็นตัวตนของคุณอยู่ตอนนี้ ความคิดบวกที่มีอยู่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตที่ดีขึ้นได้
ไม่ว่าชีวิตของคุณจะดูเลวร้ายแค่ไหนก็ตาม ผมเชื่อว่าการคิดบวก มองบวกถึงวันข้างหน้า กับทุกสิ่งทุกอย่างที่จะเกิดขึ้น จะช่วยให้คุณดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข
พลังของการคิดบวกจะทำให้คุณ
– หาหนทางใหม่หรือทางเลือกใหม่ในการแก้ปัญหา
– รู้สึกตื่นตัวที่จะพยามอย่างไม่หยุดยั้ง
– ไม่จมปลักอยู่กับความผิดพลาดในอดีต
– สร้างความมั่นใจให้ตัวเองว่าคุณจะทำให้สถานการณ์ต่างๆนั้นดีขึ้น (หน้าที่การงาน สถานะการเงิน ครอบครัว และอื่นๆ)
– ไปให้ถึงเป้าหมาย
– มีความสุขมากขึ้น
การคิดลบหรือมีอคตินั้นให้ถือเป็นเรื่องเสียเวลา การติโน่นนี่นั่น โทษตัวเอง โทษโชคชะตา จะทำให้คุณเสียเวลามากมาย ทำให้คุณไม่มีเวลามองหาสิ่งดีๆ อยู่กับความโศรกเศร้าเสียใจ มัวแต่คิดในสิ่งที่คุณไม่ควรคิด จงอย่าเป็นคนแบบนั้น
Leave a comment
You must be logged in to post a comment.