ธปท.แจ้งความเอาผิด Payall ให้บริการ e-Money โดยไม่ได้รับอนุญาต
ธปท.แจ้งความเอาผิด Payall ให้บริการ e-Money โดยไม่ได้รับอนุญาต
Payall ผู้ให้บริการ E-payment ซึ่งกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งดำเนินธุรกิจในลักษณะที่ให้สมาชิกเติมเงินเข้าระบบแล้วนำไปใช้จ่ายซื้อสินค้าต่างๆในลักษณะของ E-Money ซึ่งเป็นที่น่ากังขาว่าเป็นการดำเนินการที่ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท) แล้วหรือไม่
ล่าสุด นายพฤทธิพงศ์ ศรีมาจันทร์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายช่วยงานบริหาร ธปท. กล่าววว่า ขณะนี้ทาง ธปท ได้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อดำเนินคดีบริษัท เพย์ออล กรุ๊ป จำกัด และบุคคลเกี่ยวข้อง ในความผิดฐานให้บริการ e-money โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางราชการ
โดย ธปท ได้ร้องทุกข์ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในความผิดตามกฎหมายตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2544 ประกอบพระราชกฤษฎีว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2551 หรือ พ.ร.ฎ. e-Payment และประกาศของคณะปฎิวัติ ฉบับที่ 58 เรื่อง การประกอบธุรกิจบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีโทษสูงสุด คือ จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำและปรับ ซึ่งพนักงานสอบสวนจะดำเนินการสอบสวนให้ผู้กระทำผิดได้รับการลงโทษต่อไป
ด้าน นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธปท. กล่าวว่าเสริมอีกว่า เมื่อกลางปีที่ผ่านมา บริษัท เพย์ออล กรุ๊ป จำกัด ได้เคยยื่นขออนุญาตประกอบธุรกิจ e-Money ในบัญชีประเภท ก. คือบัญชีใช้ซื้อสินค้าและบริการจากผู้ขายเพียงรายเดียว แต่จากที่ ธปท. พิจารณาพบว่าบริการของบริษัทดังกล่าวเข้าข่ายต้องขออนุญาตในบัญชี ค.คือบัญชีใช้ซื้อสินค้าและบริการจากผู้ขายหลายราย โดยไม่จำกัดสถานที่ จึงได้แจ้งให้ บริษัท เพย์ออล กรุ๊ป จำกัด ทำการยื่นเรื่องมาใหม่
แต่ต่อมาได้ตรวจสอบพบว่าบริษัทยังคงให้บริการแอฟพลิเคชั่น โดยที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งถือเป็นความผิด อีกทั้งได้มีประชาชนร้องเรียนเข้ามาให้ ธปท. ตรวจสอบ ซึ่งได้ดำเนินการตรวจสอบตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาและทาง ธปท. ได้ตัดสินใจเข้าแจ้งความในที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย
ทั้งนี้การให้บริการ ธุรกิจ e-Money เป็นธุรกิจที่รับเงินจากประชาชนทั่วไปในวงกว้าง ดังนั้น ต้องได้รับอนุญาตจากทางการก่อน และจะต้องมีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท และต้องดำรงฐานะทางการเงินสภาพคล่อง เพื่อให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง ต้องมีการเก็บรักษาเงินของผู้ใช้บริการอย่างรัดกุม โดยต้องฝากไว้กับสถาบันการเงินและแยกบัญชีไว้ต่างหากจากเงินทุนหมุนเวียนอีกด้วย
Leave a comment
You must be logged in to post a comment.