หนี้ดีหรือเสีย
หนี้ดีหรือเสีย
ความหมายว่าหนี้ดีหรือเสียในที่นี้หมายถึงว่าการเป็นหนี้นั้นดีหรือไม่ดี มาดูกันว่าคุณตัดสินใจเป็นหนี้ในแต่ละครั้งนั้นสมควรหรือไม่
หลายๆคนอาจจะบอกว่าที่ต้องสร้างหนี้นั้นเพราะมีเหตุจำเป็น ไม่มีใครเขาอยากเป็นหนี้กันหรอก เราก็ควรจะมาพิจารณาดูต่อว่าความจำเป็นนั้นสมควรแก่การเป็นหนี้หรือไม่ อย่าลืมว่าการเป็นหนี้ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายเสมอไป
ยกตัวอย่างเช่นคุณไปยืมเงินเพื่อนฝูงญาติพี่น้องมาลงทุนทำการค้าบนอินเตอร์เทต เวลาผ่านไป 5 ปีปรากฏว่าคุณประสบความสำเร็จบริหารกิจการจนร่ำรวย นั่นคือตัวอย่างของการกู้ยืมเงินที่ดี สรุปว่าการเป็นหนี้นั้นมีทั้งดีและไม่ดี การจัดการทางการเงินที่เหมาะสมนั้นคุณควรรู้ว่าตอนไหนที่สมควรจะกู้ยืม ตอนไหนที่ไม่ควร ว่าแต่ว่าจะใช้อะไรเป็ฯตัววัด!
สิ่งที่จะใช้วัดว่าหนี้ไหนดีไม่ดีก็คือว่า หนี้ดี ก็คือการที่คุณยืมเงินแล้วนำมาซื้อของที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น เช่นการกู้ยืมเงินมาซื้อสินค้าที่ราคาต่ำแล้วขายในราคาที่สูงกว่าเพื่อเอากำไร หรือการยืมเงินซื้อรถเพื่อความสะดวกสะบายและเปิดโอกาสให้ทำรายได้เพิ่มมากขึ้น (เช่นทำงานล่วงเวลาได้ – แต่ไม่ใช่ซื้อไว้อวดชาวบ้าน) ส่วนหนี้ไม่ดี ก็คือการนำเงินที่กู้ยืมมาซื้อของที่มีมูลค่าลดลง เช่นยืมเงินมาซื้อหุ้นแล้วหุ้นตก อย่างนี้คือหนี้เสีย อย่าว่าแต่จะเสียดอกเบี้ยเลยเงินต้นก็หายไปด้วย
คุณอาจจะสงสัยว่าแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งที่คุณจะซื้อนั้นเมื่อซื้อแล้วมีมูลค่าสูงขึ้น ความจริงแล้วมีหลายอย่างให้คุณเลือกซื้อได้ ตัวอย่างที่เห็นได้ทั่วไปคือการยืมเงินมาซื้อบ้าน นอกจากเราจะได้มีที่อยู่อาศัยแล้วมูลค่าของบ้านมักจะสูงขึ้นเรื่อยๆ (ถึงแม้เศรฐกิจฟุบก็เถอะ) ราคาบ้านที่ลดลงปัจจุบันเป็นแค่เรื่องของ Demand กับ Supply แต่คุณจะเห็นว่าราคาขึ้นทุกปี การยืมเงินเพื่อทำธุรกิจที่มองว่าทำกำไรได้ดีนั้นก็เป็นการกู้ยืมเงินที่ดี แต่ไม่ใช่เป็นการกู้ยืมเงินทำธุรกิจแต่กลับนำเงินมาซื้อรถซื้อบ้านหรือใช้จ่ายฟุ่มเฟือย อย่างนี้ไม่ถือว่าเป็นการกู้ยืมเงินที่ดี อีกตัวอย่างหนึ่งคือเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา มูลค่าที่เพิ่มขึ้นไม่ใช่เฉพาะความรู้ที่ได้รับมาเท่านั้น ยังรวมไปถึงค่าตัวหรือว่าเงินเดือนที่สูงขึ้นหากจบการศึกษาชั้นสูงขึ้น
แต่หากจะให้ยกตัวอย่างหนี้ที่ไม่ดี หลายท่านคงมีตัวอย่างมากมายและหาได้ง่ายๆ และก็ไม่น่าแปลกใจเพราะเราๆท่านๆ ก็มีชื่อเรียกประจำตัวกันอยู่แล้วว่าคือ ผู้บริโภค คุณซื้อสินค้าจากผู้ผลิต (หรือผู้ขาย) แล้วคุณก็นำมาบริโภค มูลค่าของสินค้าก็หายวับหรือลดลงทันที
หนี้ไม่ดีที่เราพบเห็นอยู่บ่อยๆ ก็คือการกู้เงินมาซื้อรถ หลายคนอาจจแย้งว่าถ้าไม่กู้เงินมาซื้อ กรุงเทพๆคงไม่มีรถติดเพราะจำนวนรถคงลดลงไปค่อนครึ่ง แต่อย่าลืมนะครับว่าเวลาเศรฐกิจตกต่ำตัวเลขของของการซื้อรถเงินสดนั้นมีสัดส่วนสูงถึง 70 เปอร์เซ็น ถ้าไปถามคนเหล่านี้(หรือคุณเองก็รู้)คุณจะพบว่าเพราะหากซื้อเงินผ่อนดอกเบี้ยโหดแค่ไหน ยิ่งผ่อนระยะยาว (ทั่วไปจะ 4 ปี) ดอกเบี้ยเป็นแสนๆบาท เพราะคิดแบบคงที่ไม่ใช่ลดต้นลดดอก พอผ่อนหมดรถก็พังพอดี ไม่ได้มีมูลค่าเพิ่มเลยเพราะความสึกหรอกับสนิมกินหมด แต่ก็มีข้อยกเว้นกรณีคุณซื้อรถแล้วเป็นโอกาสให้มีรายได้เพิ่มคุ้มค่าดอกเบี้ย
อย่าลืมนะครับว่าถึงแม้คุณจะเห็นคนรอบข้างเขากู้ยืมเงินมาซื้อรถกันทั้งนั้น แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าหนี้อันนั้นจะดีเสมอไป อย่าคิดว่าถ้าใครๆเขาทำกันแล้วจะดีเสมอไป
Leave a comment
You must be logged in to post a comment.