Tweet

Reverse Mortgage สินเชื่อบ้านสำหรับผู้สูงอายุ ทางเลือกใหม่ของคนวัยชรา

ช่วงนี้ข่าวคราวทางด้านสินเชื่อเพื่อผู้สูงอายุในลักษณะ Reverse Mortgage ออกมาอยู่บนหน้าสื่อมากขึ้น เราลองมาทำความเข้าใจกันนะครับว่าสินเชื่อในลักษณะนี้คืออะไร และมันจะมีประโยชน์อย่างไรกับผู้สูงอายุ

เริ่มจากสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยธรรมดาก่อนหรือ Normal Mortgage ลักษณะคือเรากู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินเพื่อซื้อบ้านอยู่อาศัยแล้วผ่อนจ่ายธนาคารทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยไปเรื่อยๆจนหมดแล้วถึงจะหมดภาระผูกพันธ์กับธนาคาร กลายเป็นทรัพย์สินของเรา

ส่วน Reverse Mortgage ก็คือ เรามีทรัพย์สินคือบ้านที่เราอยู่อาศัยอยู่แล้ว แต่ไม่ต้องการขาย ต้องการอยู่อาศัยไปตลอดชีวิต แต่หากเราเสียชีวิตแล้วไม่มีทายาทมารับมรดกก็ต้องตกเป็นของแผ่นดินหรือของคนที่เรไม่อยากให้ จึงมีวิธีที่เรากู้ยืมเงินมาเป็นรายเดือนจากธนาคารสร้างกระแสเงินสดให้กับเรา โดยเราเป็นฝั่งรับเงินแต่ละเดือนแทน จนมูลค่าเงินที่รับและดอกเบี้ยเท่ากับมูลค่าบ้านถือว่าจบสัญญากันไป

ลักษณะนี้ก็เหมือนการขายบ้านได้เงินก้อนแล้วเอาเงินมาใช้จ่าย แต่การขายบ้านนั้นเราจะต้องเสียกรรมสิทธิ์ไปในทันทีแล้วต้องหาที่อยู่ใหม่ แต่ Reverse Mortgage เราจะค่อยๆทยอยขายบ้านไปเรื่อยๆ และยังอาศัยอยู่ได้ หากเราเสียขีวิตไปก่อนสถาบันการเงินก็จะได้กำไรไป

อย่างไรก็ตามรายละเอียดเรื่องของอายุขั้นต่ำของคนที่จะใช้บริการ Reverse Mortgage นั้นอาจจะยังไม่ชัดเจน ระยะเวลาสัญญา หรือผลตอบแทนต่างๆ อาจจะอยู่ในระหว่างการร่างกฏหมายออกมา แต่ก็ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับสังคมไทยที่มีผู้สูงอายุเป็นจำนวนมาก และเริ่มจะมีครอบครัวสูงอายุที่ต้องดูแลตนเอง ไม่เหมือนในอดีตที่เป็นครอบครัวใหญ่ลูกหลานรับภาระดูแลผู้สูงอายุ

สินเชื่อในลักษณะนี้จึงน่าจะเป็นทางออกหนึ่งสำหรับผู้สูงอายุจำนวนมากในอนาคต ที่จะนำเอาบ้านของตัวเองมาสร้างกระแสเงินสดหลังวัยเกษียณเพื่อให้ดำรงค์ชีพอย่างมีความสุข

ตัวอย่าง Reverse Mortgage ในอังกฤษนั้น ในบางสัญญา สถาบันการเงินจะจ่ายเงินให้กับเจ้าของบ้านตลอดชีพ โดยจะรับความเสี่ยงเอาเองซึ่งระยะเวลาของสัญญาจะคำนวนจากปัจจัยต่างๆรวมทั้งอายุเฉลี่ยของประชากรด้วย

นั่นคือหากเจ้าของบ้านเสียชีวิตก่อนทางสถาบันการเงินก็จะได้กำไร แต่นานๆครั้งที่ผู้ทำสัญญามีอายุยืนยาวมาก ซึ่งก็จะเป็นประเด็นข่าวที่สร้างความสนใจให้ชุมชนว่า เป็นบุคคลที่ได้กำไรจากโครงการนี้ เพราะสถาบันการเงินต้องจ่ายเงินรายเดือนเกินกว่ามูลค่าบ้านที่ตัวเองมีอยู่นั่นเอง